*นายกฯ เร่งสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ รากฐานเอสเอ็มอี ย้ำนักวิชาการ อย่าสร้างความเข้าใจผิด*

การสร้างผู้ประกอบการธุรกิจหน้าใหม่  หรือ กลุ่ม start-up จำนวน 1 หมื่นราย  ภายในปี 2561พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสร้างผู้ประกอบการใหม่ เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลจำนวน 9 แห่ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งชี้ให้เห็นความสำคัญของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ว่า เป็นฐานรากของการพัฒนาเศรษฐกิจโลกจึงต้องกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับต่อไปให้พัฒนาได้จริง คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบที่จะให้ผู้ประกอบสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอีได้มากขึ้น จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันให้เกิดความเข้มแข็ง แต่การออกมาตรการของรัฐบาลขณะนี้ยังติดปัญหาผู้ประกอบการบางส่วนยังคงมีหนี้อยู่ จึงอยากให้ทุกคนทำตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มีเหตุมีผลในการประกอบกิจการ รวมถึงความพอประมาณในการลงทุน

ทั้งนี้สถาบันการศึกษาจะต้องปรับรูปแบบการศึกษา ให้เรียนรู้ สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องสร้างความเชื่อมโยงให้กับคนรุ่นใหม่ ไม่ให้เรียกร้องแต่ประชาธิปไตย ยืนยันว่า วางแผนมานานแล้วใครจะมาล้มไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องไม่ใช่การเซ็นเช็คให้เปล่าเพื่อให้อำนาจไปบริหารประเทศ วันนี้เราต้องล้างการเมืองให้สะอาดบริสุทธิ์ ปฏิรูปเอสเอ็มอี ปฏิรูปเศรษฐกิจโดยจะต้องส่งเสริมกิจกรรมต่างๆเพื่อเพิ่มเทคโนโลยีส่งเสริมความเข็มแข็ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นทหารมาทั้งชีวิต และเอาประสบการณ์ของชาวบ้านที่พบเจอ มาปรับว่าจะทำยังไงให้ชาวบ้านดีขึ้น อยากให้ประเทศมีอนาคตมี รัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ เริ่มต้นหากติกา ทำทุกอย่างให้ได้ตามกรอบ และยืนยันไม่เคยปฏิเสธที่มาของตัวเองและพร้อมที่จะทำความดี ตรงกันข้ามกับนักวิชาการบางกลุ่มที่มีการบิดเบือนทำให้เสียหาย เพราะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้นักศึกษา และสร้างความขัดแย้งตลอดเวลา โยนความผิดสร้างหลักฐานเท็จทำให้เกิดความวุ่นวาย  ทั้งนี้ต้องการให้สถาบันการศึกษาสอนให้คนรู้หน้าที่เสรีภาพได้แต่ต้องไม่ทับสิทธิของผู้อื่น อย่าสอนคนให้ทำผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี