เมืองไทยวันนี้ ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งวันนี้มีวาระน่าสนใจคือการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินตามโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย รวมถึงประเด็นการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจอื่นๆ
โดยเมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา เปิดงาน "อนาคตไทยก้าวไกลด้วยคลัสเตอร์" โดยมีนักธุรกิจและนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งทูตและหอการค้าต่างประเทศจากประเทศต่างๆ เข้ารับฟังกว่า 2,000 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ในปีนี้มีโครงการที่ยื่นขอการส่งเสริมการลงทุน 1,923 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 693,637 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเศรษฐกิจไทย อาเซียน และประเทศอื่นๆ
โดยในวันนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โดยเงินที่ใช้ในการจัดตั้งและหมุนเวียนในกองทุนส่วนหนึ่งมาจากเงินงบประมาณ และอีกส่วนมาจากแหล่งอื่นๆ เช่นเงินจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่าการปรับปรุงมาตรการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมของบีโอไอ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหารือกับกระทรวงการคลังพบว่าภายหลังจากการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 20 เป็นการถาวรทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนหนึ่ง และการลดภาษีในส่วนนี้ให้เท่ากับว่าได้ส่งเสริมมาตรการในส่วนของการลดหย่อนภาษีไปแล้ว จึงต้องมีมาตรการอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษีในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม หากเป็นอุตสาหกรรมมราทำให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ กระทรวงการคลังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น
เมื่อวานนี้ ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาประเด็นที่มาสมาชิกวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการปฏิรูป การศึกษา และการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนเรื่องที่มาของส.ว.ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่มีข้อสรุปว่า ส.ว.จะไม่มีอำนาจถอดถอน
ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งมีความเห็นพ้องกันว่า ที่มาของนายกรัฐมนตรีคือต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือก ซึ่งจะเป็นส.ส. หรือไม่เป็นส.ส.ก็ได้ แต่หากไม่ได้เป็น ส.ส.จะต้องมีเสียงส.ส.สนับสนุน 3 ใน 5 ของ จำนวนส.ส.ทั้งหมด
และต้องติดตามว่าวันนี้อัยการทหารจะยื่นฟ้องนายอาเดม คาราดัค และนายมีไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ หลังครบกำหนดฝากขังครบ 7 ผัด หรือจะขอขยายระยะเวลายื่นฟ้องออกไปอีก
ส่วนเรื่องการแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกตร. กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมีข้อมูลอดีตตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) 2 ใน 4 นายที่ลาออกจากราชการไปก่อนหน้านี้ มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการกระทำผิดตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ชุดสืบสวนกำลังส่งเรื่องไปให้ชุดสอบสวนดำเนินการขยายผลเพื่อหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยยังไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด ต้องรอขยายผลก่อนว่านายตำรวจทั้งสองเกี่ยวข้องเรื่องใด ประเด็นใด
ขณะที่โครงการอุทยานราชภักดิ์ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติให้สำนักงานป.ป.ช.ดำเนินการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในทางลับ โดยอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.จะสามารถดำเนินการได้ใน 2 กรณี คือ มีผู้ร้องเรียน และมีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่วนข้อสงสัยเรื่องการตรวจสอบเงินนั้น ต้องพิจารณาดูว่ามูลนิธิที่จดทะเบียนเกี่ยวข้องกับรัฐหรือไม่ เพราะหากเป็นเอกชนการกระทำความผิดจะถือว่าผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ใช่การกระทำที่ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้มีรายละเอียดมาก ป.ป.ช.ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ยอมรับว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์เพียงเล็กน้อยจึงไม่อาจสรุปได้ว่าใครทุจริตเรื่องอะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเกิดความผิดพลาดและเกิดความเข้าใจผิดในสังคมได้ โดยระบุว่าข้อมูลที่ผ่านมาปรากฏผ่านสื่อเท่านั้น
โดยเมื่อวานนี้ พล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ ผอ.สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้โพสต์กล่าวหาว่าทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ และกิจกรรมปั่นเพื่อแม่
ส่วนการเคลื่อนไหวของการบินไทย นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยว่าไม่พบการนัดหยุดงานในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ แต่ยอมรับว่าจะมีผู้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากค้ำประกันเงินกู้มายื่นหนังสือเท่านั้น ซึ่งเป็นกรณีที่พนักงานบางส่วนที่กู้เงินจากสหกรณ์เข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนด แต่ยังไม่ผ่อนชำระครบทั้งหมด เมื่อพนักงานเหล่านี้ยื่นขอลาออก ก็ทำให้ผู้ค้ำประกันต้องรับภาระชดใช้แทนซึ่งมีมากถึง 700 คน จากสมาชิกสหกรณ์เกือบ 27,000 คน วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน 25,600 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนนำมาหักชำระหนี้ไม่ได้ เช่น เงินกองทุนประกันสังคม ซึ่งทางสหกรณ์ฯ จะมีการประชุมในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
...