รองนายกรัฐมนตรี พร้อมให้ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์

ตามที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยผลการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุว่าไม่พบการทุจริตนั้น 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ถือได้ว่ามีความชัดเจนแล้ว และไม่จำเป็นต้องให้คะแนน เพราะเป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงและเป็นเรื่องกองทัพบก ส่วนการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะตรวจสอบด้วยนั้นคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเชื่อว่ากองทัพบก จะชี้แจงได้เช่นกัน ส่วนเรื่องที่มีการหักค่าหัวคิวของโรงหล่อนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเพราะอยู่ในรายละเอียดของการสอบสวน นอกจากนี้ยังคิดว่าไม่เห็นด้วยและไม่มีความจำเป็นที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก จะต้องมาชี้แจงในฐานะประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีจัดตั้งมูลนิธิฯ รวมถึงไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น

 ส่วนการตรวจสอบ และรักษาความปลอดภัย และความมั่งคงในการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD , การจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก , เทศกาลลอยกระทง และเทศกาลปีใหม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า มีการประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านความมั่งคงในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นระยะอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องทำให้เกิดความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยให้ได้ โดยจะประสานความร่วมมือกันระหว่าง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ในการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งยอมว่าเป็นห่วงความปลอดภัยทั่วประเทศและต้องดำเนินการในทุกพื้นที่ และได้มีการติดตามงานด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่มีการจับตัวกลุ่มบุคคลที่จะสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วหลายคน และจะมีการติดตามควบคุมตัวเพิ่มเติมหากพบว่ามีพฤติกรรมเป็นขบวนการ 

ส่วนกรณีที่ไทยส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวจีน 2 คนกลับไปยังประเทศต้นทางนั้น พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า เป็นการส่งกลับไปตามที่ทั้ง 2 คนมีหมายจับในประเทศต้นทาง ซึ่งได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับ UNHCR แล้ว และหลังจากนี้ก็จะต้องมีการสอบถามและประสานพูดคุย UNHCR มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ คสช. ส่งข้อเสนอ 10 ข้อ ไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  โดยมีบางข้อระบุว่า ทหารมีสิทธิในการออกความเห็นการเมือง และการคงอยู่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรุปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทหารเป็นประชาชนคนหนึ่งที่แต่งเครื่องแบบ  พร้อมย้ำว่าทหารมีระเบีบวินัย และวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว คงไม่สามารถสนับสนุนทางการเมืองเองได้ และขอให้แยกประเด็นการเมืองออกจากการทหาร ซึ่งที่สำคัญคือต้องรอดูรัฐธรรมนูญที่จะออกมา ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ต้องขอประชามติจากประชาชน และเจตนารมย์ของ คสช และรัฐบาลไม่ต้องการให้ประเทศเกิดทางตันในทางการเมืองเหมือนอดีตที่ผ่านมาเพราะอาจจะมีความขัดแย้งกันอีก และเชื่อว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. จะเขียนเพื่อไม่ให้เกิดทางตัน พร้อมทั้งปฏิเสธแสดงความเห็นถึงอำนาจ สว. ในการถอดถอน นักการเมือง เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงและไม่อยากให้เป็นประเด็นการชี้นำ

 ส่วนวันนี้ที่ทางนายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จะเข้าพบนั้น ส่วนตัวก็พร้อมที่จะชี้แจงและตอบทำถามทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องความมั่งคงและยังไม่ทราบว่าทางทูตสหรัฐฯจะถามเรื่องอะไร ส่วนเรื่องประชาธิปไตย ยืนยันไม่มีปัญหาอะไรเพราะรัฐบาลจะเดินหน้าตามโรดแมปอยู่แล้ว

 

....ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด