นายซาเลาะห์ อับเดสลาม เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในกรุงปารีสของฝรั่งเศส เพียงรายเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ และหลบหนีการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยังกลายเป็นคนเดียวที่จะสามารถเปิดเผยแผนการก่อเหตุทั้งหมดได้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้ลำดับเหตุการณ์การก่อเหตุของนายอับเดสลาม ก่อนจะหลบหนีออกจากกรุงปารีสของฝรั่งเศส มุ่งหน้าสู่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ในคืนหลังก่อเหตุ โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคณะสืบสวนสอบสวน ทำให้เชื่อว่านายอับเดสลาม วัย 26 ปี เป็นผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ คลีโอสีดำไปส่งมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 คน ใกล้กับสนามกีฬาสตาร์ดเดอฟรองซ์ สนามกีฬาแห่งชาติของฝรั่งเศส ก่อนจะขับรถยนต์มุ่งหน้าลงไปทางตอนใต้ราว 5 กม. ซึ่งเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารกอมตัวร์ โวลแตร์ ที่ซึ่งนายอิบราฮิม พี่ชายของเขาก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย และหลังก่อเหตุ 4 วัน ตำรวจพบรถยนต์ที่นายอับเดสลามขับจอดทิ้งไว้ในลักษณะรีบร้อนในเขตที่ 18 ของกรุงปารีส นอกจากนั้น ตำรวจตรวจสอบพบว่า เมื่อเวลาประมาณ 2.00 น. ของคืนวันเสาร์ ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุก่อการร้าย นายอับเดสลามได้โทรศัพท์จากกรุงปารีสถึงเพื่อน 2 คนที่อยู่ในกรุงบรัสเซลส์ เพื่อขอให้เพื่อนขับรถมารับตัวเขา เพื่อนทั้งสองคนเป็นชาวเบลเยียมเชื้อสายโมรอคโค คือนายโมฮัมเหม็ด อัมรี วัย 27 ปี และนายฮัมซา อัตตู วัย 21 ปี เดินทางถึงกรุงปารีสเมื่อเวลา 5.00 น. ก่อนจะรับตัวนายอับเดสลามจากย่านบาร์แบส์ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่เขาทิ้งรถยนต์ และเดินทางเข้าสู่กรุงบรัสเซลส์ทันที
ทั้งนี้ ขณะเดินทางถึงพรมแดนเบลเยียม ในเวลาประมาณ 9.00 น. ตำรวจได้เรียกรถยนต์ของพวกเขาให้หยุดเพื่อตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้าออกเมือง ก่อนจะอนุญาตให้รถยนต์ขับต่อไป เนื่องจากในเวลานั้นทางการฝรั่งเศสยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุบ้าง จึงไม่ได้มีการแจ้งต่อตำรวจเบลเยียม โดยภายหลังตำรวจเชื่อว่านายอับเดสลามน่าจะเป็นหนึ่งในขบวนการก่อการร้าย หลังพบรถยนต์อีกคันที่จอดทิ้งไว้และพบปืนกลเอเค 47 อยู่ในรถ 3 กระบอก โดยเขาเป็นผู้เช่ารถยนต์คันนี้ ขณะนี้ตำรวจฝรั่งเศสและเบลเยียมยังไม่พบตัวนายอับเดสลาม แต่ตำรวจเบลเยียมสามารถติดตามจับกุมตัวเพื่อนทั้งสองของเขาได้แล้ว พร้อมตั้งข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย แต่ทนายความของทั้งคู่ยืนยันว่าลูกความของเขาไม่เคยทราบมาก่อนว่า นายอับเดสลามเป็นผู้มีส่วนพัวพันกับการก่อการร้ายในกรุงปารีส พร้อมให้ข้อมูลด้วยว่า ขณะที่ขับรถพาเขากลับกรุงบรัสเซลส์นั้น นายอับเดสลามสวมเสื้อแจ๊คเก็ตตัวใหญ่ และแสดงอาการกระวนกระวาย รวมทั้งเชื่อว่าเขาพร้อมที่จะกดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายได้ทันที นอกจากนั้น จากข้อความของกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอสที่กล่าวถึงเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส โดยระบุถึงพี่น้อง 8 คนที่ร่วมก่อเหตุในเขตที่ 10, 11 และ 18 ในกรุงปารีส ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้เชื่อว่านายอับเดสลามถูกวางตัวให้เป็นผู้ก่อเหตุในเขตที่ 18 ซึ่งไม่มีรายงานก่อเหตุร้ายขึ้น และจากการตรวจสอบตำรวจพบคนร้ายที่เสียชีวิตเพียง 7 คน
**14.17F174**