*ผู้โดยสารอาหรับ ถูกเชิญออกจากเครื่องบินในสหรัฐฯ ทำให้คนอื่นกังวลกลัวไม่ปลอดภัย*

เหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศส ทำให้เกิดความตื่นตระหนกและความหวาดระแวงไปทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกขู่โจมตี โดยล่าสุดมีรายงานว่า ผู้โดยสารสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ของสหรัฐฯ 2 คน ที่มีกำหนดเดินทางจากสนามบินมิดเวย์ในนครชิคาโกเพื่อไปยังเมืองฟิลาเดเฟีย สหรัฐฯ เกือบถูกปฏิเสธการเดินทาง เนื่องจากทั้งสองพูดคุยกันเป็นภาษาอารบิก นายมาเฮอร์ ตาลิล ชาวปาเลสไตน์วัย 20 ปีเศษ หนึ่งในสองผู้โดยสารที่เกือบถูกปฏิเสธการเดินทางให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า เขาและเพื่อนชาวปาเลสไตน์ คือนายอานัส ไอยาด ถูกเจ้าหน้าที่สายการบินเชิญตัวลงจากเครื่องบิน ขณะที่เครื่องเตรียมขึ้นบินเมื่อคืนวันพุธ โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า เพราะผู้โดยสารคนอื่นได้ยินพวกเขาพูดคุยกันเป็นภาษาอารบิก จึงทำให้เกิดความหวาดกลัวในการเดินทาง หลังเจ้าหน้าที่เชิญตัวออกจากเครื่องบิน ทั้งคู่ได้ถูกนำตัวไปให้ปากคำกับตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินเจ้าหน้าที่ประจำสายการบิน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เชื่อว่าพวกเขาบริสุทธิ์ จึงอนุญาตให้เดินทางได้

นายคาลิลเล่าว่า เมื่อเดินกลับขึ้นไปขึ้นเครื่อง บรรดาผู้โดยสารคนอื่นก็ได้ขอโทษเขาด้วยการขอให้เขาเปิดกล่องสีขาวที่เขากำลังถืออยู่ เพื่อใส่ขนมลงไปในกล่องเป็นการแบ่งปันขนมกัน

ยังมีเหตุการณ์ใกล้เคียงกันเกิดขึ้นกับสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินจากสนามบินมิดเวย์ที่มุ่งหน้าสู่เมืองฮูสตันด้วย เมื่อมีผู้โดยสารเกิดความวิตกด้านความปลอดภัยในการบิน เนื่องจากมีผู้โดยสารชาย 6 คนที่พูดด้วยสำเนียงของคนตะวันออกกลางขอสลับที่นั่งกับผู้โดยสารที่นั่งติดกับพวกเขา ทำให้ผู้โดยสารชายทั้ง 6 คนถูกเชิญออกจากเครื่องบิน

ส่วนที่รัฐฟลอริด้า สายการบินสปิริต แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองมินนีแอโปลิสต้องบินกลับมาที่สนามบินฟอร์ท ลอเดอร์เดล รัฐฟลอริด้า เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากผู้โดยสารคนหนึ่งได้ยินบทสนทนาของผู้โดยสารเกี่ยวกับการระเบิดเครื่องบิน และทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินนำตัวผู้โดยสารคนหนึ่งคือนายยานิฟ อาบอตบุล ชาวอเมริกันที่เติบโตในอิสราเอลต้องถูกกักตัวเพื่อซักถามเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง หลังจากไม่พบความผิดปกติใดๆ และตำรวจเชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดของผู้โดยสาร จึงปล่อยตัวนายอาบอตบุล

ด้านหนังสือพิมพ์บัลติมอร์ ซันรายงานว่า เมื่อวันอังคาร ผู้โดยสาร ซึ่งประกอบด้วยผู้หญิง 1 คน และชาย 3 คน ได้ถูกเชิญตัวออกจากเครื่องบินที่สนามบินบัลติมอร์ หลังจากผู้โดยสารคนอื่นได้ยินพวกเขาคุยกันด้วยสำเนียงตะวันออกกลาง และมีพฤติกรรมต้องสงสัย ขณะเตรียมขึ้นบินไปสนามบินโอแฮร์ในชิคาโก และหลังจากการตรวจสอบตำรวจยืนยันว่าพวกเขาเพียงแต่กำลังดูข่าวจากสมาร์ทโฟน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งดังกล่าว ทำให้สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลามออกมาระบุว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ เพราะพวกเขาได้รับความไม่สะดวกและถูกบังคับให้ต้องอดทนกับการกระทำที่น่าอัปยศอดสูและต้องถูกสอบสวนเพียงเพราะเหตุผลความหวาดกลัวของผู้โดยสารคนอื่น

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:Reuters