ความคืบหน้าเหตุบุกจับตัวประกันในโรงเรมราดิสสัน บลู โรงแรมหรูของสหรัฐฯ ทางตะวันตกของกรุงบามาโก ประเทศมาลีเมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ มีคนเสียชีวิต 3 ศพ รวมถึงชาวมาลี 2 ศพและชาวฝรั่งเศส 1 ศพ ทหารบาดเจ็บ 2 คน ช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว 30 คน ขณะนี้ยังมีคนติดค้างอยู่ 138 คน ในจำนวนนี้เป็นแขกของโรงแรม 125 คนและพนักงานของโรงแรม 13 คน ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างโฆษกกองทัพสหรัฐฯกล่าวว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯอยู่ระหว่างการเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันที่โรงแรมนั้นร่วมกับกองทัพมาลี ช่วยอพยพพลเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย ขณะที่ทหารจากกองทัพมาลีบุกเข้าไปภายในโรงแรมเพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่เหลืออยู่ ด้านหน่วยรบพิเศษของกองทัพฝรั่งเศส ระบุทางทวิตเตอร์ว่าหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส พร้อมทีมนักนิติเวชศาสตร์อยู่ระหว่างมุ่งหน้าไปยังมาลี เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองทัพมาลี
ก่อนหน้านี้ มือปืนบุกจับแขกของโรงแรม 170 คน รวมถึงชาวอินเดีย 20 คน ชาวจีน 10 คนและพนักงานของโรงแรม 30 คนไว้เป็นตัวประกัน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายขับรถยนต์คันหนึ่งติดปิดป้ายทะเบียนทูตเข้าไปยังโรงแรมเมื่อเช้าวันนี้ กราดยิงขณะบุกเข้าไปยังโรงแรม มีเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนาทีรายงานว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 3 คน ส่วนคนร้ายที่เหลือ หนีขึ้นไปบนหลังคาโรงแรม
หลังเกิดเหตุ กองกำลังรัฐบาลมาลี พร้อมทหารขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ได้ปิดล้อมโรงแรม สามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ 80 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ยูเอ็น 3 คน ด้านสายการบินแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศสระบุว่าลูกเรือ 12 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะที่เตอร์กิชแอร์ไลน์ของตุรกีระบุว่า ลูกเรือ 5 คนสามารถออกมาได้ ส่วนอีก 2 คนยังคิดค้างอยู่ในโรงแรม
เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุมีขึ้นเพียง 1 วันหลังประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ชื่นชมกองทัพฝรั่งเศสว่าประสบความสำเร็จในการปราบปรามกลุ่มไอเอสในประเทศมาลี เขากล่าวว่าฝรั่งเศสจะต้องร่วมมือกับพันธมิตรในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในอิรักและซีเรีย ดังเช่นที่ทำสำเร็จแล้วในมาลี อดีตอาณานิคมฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ มีคนเสียชีวิต 12 ศพ รวมถึงทหารมาลี 5 ศพจากเหตุจับตัวประกันในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซแวร์ ทางภาคกลางของมาลี