*พนักงานสอบสวนเร่งรัดทำสำนวนคดีม.112 ที่เหลือ 12 สำนวน*

ความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 พล.ต.ต.ทรงพล วัธนชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ภายหลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่งเห็นชอบสั่งฟ้องเมื่อวานนี้ และได้ส่งสำนวนกลับไปยังกองคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ที่จะต้องนำสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการศาลทหาร ต่อไป ส่วนสำนวนอื่นๆอีก 12 สำนวนที่เหลือ คณะพนักงานสอบสวนจะทยอยส่งให้กับกองคดีพิจารณาเช่นเดียวกับสำนวนแรก โดยได้พยายามเร่งรัดการทำสำนวนคดีอย่างรวดเร็ว และขณะนี้จากการตรวจสอบยังพบผู้กระทำผิดเพียง 3 คน ประกอบด้วยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ โดยยังไม่มีผู้ต้องหาคนอื่นๆเพิ่มเติม

สำหรับการตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ทรงพล ระบุว่า ขณะนี้เป็นเรื่องเฉพาะของหน่วยงาน ที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาสอบสวนหาผู้กระทำผิด ซึ่งหากพบว่ามีมูลความผิด ตามขั้นตอนคณะกรรมการฯ จะเป็นผู้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษพนักงานสอบสวน โดยเมื่อข้อเท็จจริงปรากฎขึ้น มีการกระทำผิดจริงตำรวจก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ และต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย การตรวจเอกสารลับทางราชการ เกี่ยวกับ รายงานการสอบสวนการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มีการส่งต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจสันติบาล และยังไม่มีการรายงานผลว่าเป็นเอกสารทางราชการจริงหรือไม่

ด้านนางสาวกนิษฐา สุขศรี ยื่นหนังสือร้องขอวามเป็นธรรมให้กับน้องชายต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องเรียนผ่านพล.ต.ต.ทรงพล หลังถูกดำเนินคดีฆ่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปีที่2554 ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง ดังนั้นจึงอยากร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ยื่นฎีกา และให้ตำรวจติดตามตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงให้ได้ ขณะเดียวกัน นางสาวกนิษฐา ยืนยัน น้องชาย มีอาการพิการแขนขวาและมีอาการโรคลมชักไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ใช้อาวุธสงครามก่อเหตุอุกอาจเช่นนั้นได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข