*ผบ.ทบ. ยืนยันไม่มีทุจริต ไม่มีทหารเกี่ยวข้องโครงการอุทยานราชภักดิ์*

การชี้แจงผลการตรวจสอบการดำเนินการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. กล่าวว่าภายหลังจากรับทราบรายงานผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนด้วยวาจา จากพล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะประธานการตรวจสอบว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อตรวจสอบการดำเนินการจากสร้างอุทยานราขภักดิ์ ตั้งแต่อดีต ไปจนถึงปัจจุบัน และปัญหาต่าง ๆ ซึ่งการตรวจสอบไม่ได้สอบในประเด็นการทุจริต แต่เป็นการตรวจสอบความเรียบร้อย เนื่องจากต้องเข้าไปดำเนินงานต่อจากพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ. แต่จากการตรวจสอบบัญชี ยืนยันว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน ไม่มีการทุจริต และโปร่งใส แต่หากพบว่า มีบุคคลกระทำความผิดจริง ก็จะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด ยืนยันว่างบประมาณที่ดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์เป็นเงินบริจาคทั้งหมด แต่ยอมรับว่าในกิจกรรมไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์ แอนด์ คอนเสริร์ต เมื่อวันที่ 12 ก.ย. มีการจำหน่ายโต๊ะจีนในราคา 1 ล้านบาท และต้นไม้ในอุทยานราชภักดิ์ในราคาต้นละ 3 แสน จริง เพื่อนำเงินเป็นเงินบริจาคเข้ากองทุนการจัดสร้างอุทยาน

ในส่วนโรงหล่อทั้งหมดมี  6 โรง ในแต่ละโรงมีราคาตั้งแต่หล่อพระรูปองค์ละประมาณ  41-45 ล้านบาท ถูกแบ่งจ่าย เป็น 5 งวด ซึ่ง งวดสุดท้ายยังไม่จ่ายจะต้องดูประกันคุณภาพ พร้อมยืนยันว่าโรงหล่อตั้งใจบริจาคเงินจำนวน 20 ล้านให้แก่มูลนิธิจริงและมีใบเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้พล.อ.ธีรชัยจะเข้าไปดำเนินการจัดสร้างอุทยานฯ ต่อ โดยมีการจัดทำแผนงานเพื่อขออนุมัติงบประมานเสนอต่อมูลนิธิ ซึ่งในส่วนการก่อสร้างขณะนี้ยังเหลือการก่อสร้างในส่วนพิพิธภัณฑ์ภายในบริเวณฐานองค์พระรูปภายในอุทยานราชภักดิ์ และไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องไปให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากไม่พบการทุจริต รวมถึงไม่ต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเนื่องจากเป็นเรื่องภายในของกองทัพ

ผู้บัญชาการทหารบก ขอให้ประชาชนอย่าหูเบาในการรับฟังข่าวสารโดยเฉพาะในโลกโ.ซเชียลมีเดีย โดยขอให้ใช้สติไต่ตรองในการรับฟังข่าวสาร ส่วนกรณีที่ พล.อ.อุดมเดช ออกมายอบรับว่ามีเซียนพระเรียกเก็บเงินค่าหัวคิดบริษัทโรงหล่อ องค์พระรูปบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ พล.อ.ธีระชัย กล่าวว่า ไม่ทราบให้เรื่องนี้ให้ไปสอบถามกับพล.อ.อุดมเดชเอง ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับพล.อ.อุดมเดช ว่ามีความขัดแย้งกันจริงหรือไม่

ส่วนของกรณี พ.อ.คชาชาต บุญดี อดีตนายทหารเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับตามประมวลกฎหมายออาญามาตรา 112 พล.อ.ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุทยานราชภักดิ์ แต่ไม่ได้ระบุว่าขณะนี้สามารถจับกุมพ.อ.คชาชาต ได้แล้วหรือไม่