*รอบวัน:นายกฯพบผู้นำสหรัฐที่ประชุมเอเปค/ผบ.ทบ.นัดแถลงผลสอบราชภักดิ์/นิวยอร์คยกระดับรปภ.หลังISISขู่โจมตี

ข่าวเที่ยงครึ่ง

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ในระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค (เอเปค) ได้พบกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ จากการนั่งประชุมติดกัน จึงได้ขอบคุณสหรัฐที่ส่งเอกอัครราชทูตมาประจำประเทศไทย ซึ่งนายโอบามาระบุว่ายินดี เพราะความเป็นพันธมิตรระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกามีมายาวนาน และทอดทิ้งกันไม่ได้ และยังยินดีที่จะสนับสนุนไทยเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย จึงได้ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน ผู้นำสหรัฐฯ ยังย้ำว่าทราบดีถึงความซับซ้อนทางการเมืองไทย แต่สิ่งที่ห่วงใยคือเรื่องสิทธิมนุษยชน และได้ยืนยันว่าพยายามดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเรื่องของการข่าวจากผู้ที่ไม่หวังดี ซึ่งบางครั้งนำเสนอโดยไม่มีข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงอยากขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่ารับข้อมูลที่ผิดๆ มานำเสนอ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่เป็นเหตุหนึ่งทำให้อีกฝ่ายมากดดันเราในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง

+++พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่2 ว่า ในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.00 น. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับ ผลสอบการจัดสร้างอุทธยารราชภักดิ์ ภายหลังได้รับรายงานผลการสอบสวนจากคณะกรรมสอบสวนด้วยวาจาจาก พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะประธานการตรวจสอบ พร้อมทั้งปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าวจับกุม พ.อ.คชาชาต บุญดี อดีตนายทหารเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

+++ด้าน พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังจับกุม พ.อ.คชาชาต บุญดี อดีตนายทหารเสนาธิการประจำกองทัพภาคที 3 ไม่ได้ ตามที่มีกระแสข่าว ทั้งนี้ทางประเทศเมียนมา ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าให้ได้รับทราบ แต่เบื้องต้นได้ประสานไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นของไทยกับเมียนมา ทั้ง 6 ช่องทาง เพื่อให้เร่งดำเนินการตามจับกุมพ.อ.คชาชาตต่อไป  

+++พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า ตำรวจสันติบาลมีหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสารลับเกี่ยวกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ ตามที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และมีการพาดพิงหลายบุคคลทั้งในรัฐบาลและกองทัพบก ว่าต้นตอที่มาจากใคร และใครเป็นผู้เผยแพร่ ส่วนจะมีการทำเป็นขบวนการเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ต้องมีการตรวจสอบก่อน  ยืนยันหากมีความผิดมีขั้นตอนตามกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมระบุส่วนตัวเห็นเอกสารพร้อมสื่อมวลชน

+++ส่วนกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากเป็นโรงพักที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีน้ำ และไฟฟ้าใช้ การปฎิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก จึงต้องการเดินทางไปดูด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้อีก   โดยยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เดินทางไปรับตัว พ.อ.คชาชาต ที่ประเทศเมียนมาแต่อย่างใด

+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ระบุ ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีพิมพ์เขียว เขียนเพื่อคนไทย ไม่ใช่พรรคการเมือง แนะ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปตำรวจ บังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ในวันนี้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดโครงการสัมมนา เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเฉพาะ ต่อร่างรัฐธรรมนูญ  กรธ.รับฟังความคิดเห็นของทุกคนอย่างแน่นอน แต่ต้องนำประกายความคิดของทุกคนไปสกัดแล้วเขียนในรัฐธรรมนูญให้สั้น กระชับ ยอมรับว่า กรธ.มีเวลาการทำงานอย่างจำกัด จึงไม่สามารถรับฟังความเห็นได้ทุกพื้นที่ นอกจากนี้ กรธ.ไม่ได้ฝักใฝ่หรือเอื้อประโยชน์กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นการร่างเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง หากประชาชนเลือกใคร กรธ.ก็พร้อมยอมรับ และหากนักการเมืองที่จะเสนอความเห็นเรื่องกระบวนการการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองต่อ กรธ. ก็ขอให้มาในนามส่วนตัว โดยวางพรรคการเมืองไว้ แล้วมาตัวเปล่า เพื่อเสนอความคิดเห็นที่มุ่งประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก.

+++ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฮั้วประมูล ที่อัยการยื่นฟ้องนาย ประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นาง เขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา นางสาววรรณา ล้อไพบูลย์ บุคคลใกล้ชิดของนางเขมพร และนายถวิล หรือน้อยหนวด สวัสดี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มนาย สมชาย จิตตหฤษฎ์ หรือเลขาจุก เลขานุการส่วนของกำนันเซี๊ยะ ในคดีฮั้วประมูล กรณีเข้าขัดขวางไม่ให้บริษัท วัสดุเซ็นเตอร์ เข้าเสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้าง ปี 2542 ถึง 2544  เมื่อถึงเวลานัดมีเพียงนางเขมพร เดินทางมาศาล พร้อมยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ออกไปก่อน เนื่องนายประชา หรือ กำนันเซี๊ยะ อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บกรณีประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม โดยมีใบรับรองแพทย์ยืนยันต่อศาล   

+++ขณะที่ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายประชา หรือ กำนันเซี๊ยะ ได้ขอเลื่อนนัดโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการรักษาตัว ได้รับการผ่าตัด และมีอาการโรคหัวใจกำเริบ แต่ศาลเห็นว่า นายประชา รักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่ใช่การป่วยจนมาศาลไม่ได้ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ให้ออกหมายจับนายประชา และนางสาววรรณา และนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ในเวลา 09.00 น. พร้อมกำชับให้นางเขมพร มาศาลตามนัดด้วย  คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุก นายประชา หรือ กำนันเซี๊ยะ 5 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 3 คน ให้จำคุกคนละ 4 ปี แต่ต่อมาเมื่อมีการอุทธรณ์คดี ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด

+++ตำรวจนิวยอร์กแถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังภัยภายหลังกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ออกวิดีโอขู่ก่อการร้ายโจมตีนครนิวยอร์กของสหรัฐ แต่ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีภัยคุกคามที่ชัดเจน แต่ตำรวจจะยังคงยกระดับการเฝ้าระวัง พร้อมประสานกับสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ(เอฟบีไอ) หน่วยเฉพาะกิจต่อต้านการก่อการร้าย และหน่วยงานข่าวกรองที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นครนิวยอร์กปลอดภัย