เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงและโจมตีมัสยิดหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส ซึ่งกลุ่มรณรงค์เปิดเผยด้วยว่า นอกจากการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มมากขึ้นแล้ว ศูนย์อิสลามิกก็ยังได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่โทรมาแสดงความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้น กับมัสยิดบางแห่งยังมีผู้ที่เขียนข้อความตามรั้ว หรือผนังอาคาร
ส่วนที่แคนาดา ตำรวจจับกุมชายคนหนึ่งที่เผยแพร่วิดีโอขู่ว่าจะสังหารชาวอาหรับที่ควีเบคสัปดาห์ละ 1 คนสส่วนมัสยิดที่ปีเตอร์สโบโรห์ รัฐออนทาริโอถูกวางเพลิง ซึ่งนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดากล่าวว่าเป็นภัยร้ายแรงที่แฝงตัวอยู่ในระดับลึก และเป็นอุปสรรคต่อการติดตามจับกุมกลุ่มหัวรุนแรง
ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา ที่มลรัฐคอนเนตติกัต ทางการยังคงพยายามตรวจสอบเหตุการณ์ที่มีผู้แจ้งว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดที่มัสยิดแห่งหนึ่งหลังจากที่เกิดเหตุก่อการร้ายที่ปารีส และยังมีผู้ที่เขียนข้อความข่มขู่ที่ประตูหอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยคอนเนตติกัต
ส่วนที่เท็กซัส มีชายคนหนึ่งที่เผยแพร่คำขู่ผ่านสื่อสังคมว่าจะก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิดในเท็กซัส กับพบคัมภีร์ที่ถูกฉีกทำลายทิ้งไว้ที่หน้ามัสยิดแห่งหนึ่งในเท็กซัสเช่นกัน ขณะที่ในมลรัฐฟลอริด้ามีมัสยิด 2 แห่งได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ ที่รัฐเนบราก้า พบว่ามีผู้พ่นสีเป็นภาพหอไอเฟลที่กำแพงของอาคารศูนย์โอมาฮา อิสลามิก ซึ่งเลขาธิการศูนย์ ยอมรับว่าหลังจากที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นที่ปารีส จำนวนผู้ที่มาประกอบพิธีทางศาสนาที่มัดยิดลดน้อยลงเพราะเกรงว่า จะไม่มีความปลอดภัย จึงขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า การที่ผู้ว่าการรัฐหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธที่จะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้ามาตั้งรกรากในประเทศ นับเป็นการแสดงท่าทีที่ผิดพลาดและยิ่งทำให้เกิดการต่อต้านมุสลิมมากยิ่งขึ้น
..F163..