ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++คำชี้แจงที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับชะตากรรมของนายอาบาอูด มีออกมาท่ามกลางรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ ที่อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโส 2 ว่าผู้ต้องสงสัยมือบงการเหตุวินาศกรรมกรุงเมืองหลวง เสียชีวิตระหว่างการจู่โจมของเจ้าหน้าที่แดนน้ำหอม ณ อพาร์ตเมนต์ทางเหนือของเมืองหลวง ที่นำไปมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน
+++ตำรวจและทหารมากกว่า 100 คนจู่โจมเข้าไปในอาคารอพาร์ตเมนต์และใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นปฏิบัติการก็พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทางวอชิงตันโพสต์ บอกว่าหนึ่งในนั้นคือนายอาบาอูด ผู้ต้องสงสัยสั่งการเหตุโจมตีนองเลือดกรุงปารีส พวกหัวรุนแรงชาวเบลเยียม วอชิงตันโพสต์อ้างเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยุโรประดับอาวุโสระบุว่าคำยืนยันเกี่ยวกับการตายของนายอาบาอูด หลังพยาบาล ต่อสู้ขัดขืนอยู่ตรงบริเวณชั้น 3 ของตัวอาคาร
+++ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศสแถลงในที่ประชุมนายกเทศมนตรีทั่วประเทศว่า ขณะนี้ฝรั่งเศสกำลังทำสงครามกับพวกก่อการร้ายไอเอสซึ่งเขาอยากให้มีการร่วมมือกันเป็นกลุ่มพันธมิตรขนาดใหญ่เพื่อต่อต้านไอเอสเพราะไอเอสคุกคามต่อทั้งโลกและสังหารหมู่ผู้คนในภูมิภาคตะวันออกกลางขณะนี้เรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ลเดอ โกล ของกองทัพฝรั่งเศสได้ออกเดินทางจากท่าเรือเมืองตูลองเพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติการทางทหารของกองทัพฝรั่งเศสเพื่อโจมตีไอเอสในประเทศซีเรีย
+++ส่วนที่เดนมาร์ก นายสตีน ฮันเซ่น โฆษกตำรวจเดนมาร์กแถลงว่าตำรวจได้สั่งอพยพผู้โดยสารจากอาคารผู้โดยสารเทอร์มินัล3ของสนามบินกาสทรัปกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อเวลาประมาณ 12.00น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่นหลังรับแจ้งเหตุเรื่องการแอบได้ยินชายสองคนคุยกันเรื่องระเบิดในกระเป๋าสัมภาระ มีการส่งสุนัขตำรวจเข้าไปตรวจในพื้นที่และสั่งให้หยุดบริการชั่วคราวสำหรับเส้นทางรถไฟมายังสนามบิน ทั้ง2คน นี้ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนกันโดยคนหนึ่งจะไปปารีส ฝรั่งเศสส่วนอีกคนจะไปยังเมืองแฟรงค์เฟิร์ตประเทศเยอรมนี ส่วนสัญชาติของบุคคลทั้ง2คนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแต่ทางอาคารผู้โดยสารสามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติอีกครั้งหลังเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
+++นายอันเดอร์ส ธอร์นเบิร์กหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองในประเทศและต่อต้านการก่อการร้ายของสวีเดนเปิดเผยว่ามีการออกหมายจับชายผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อการร้ายแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้ทางการกำลังติดตามไล่ล่าอยู่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อคืนวันศุกร์ที่13พ.ย.
+++นายรามี อับเดล ราห์มาน แห่งกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย กล่าวว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของฝรั่งเศสและรัสเซียในซีเรีย ในรอบ 72 ชั่วโมงที่ ทำให้สมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส เสียชีวิต 33 คน รวมถึงอีกหลายสิบคนบาดเจ็บ ในเมืองรากา ซึ่งเป็นเสมือนเมืองหลวงของกลุ่มไอเอสในซีเรีย เครื่องบินรบของฝรั่งเศสออกโจมตีหลายสิบครั้งในวันอาทิตย์ วันจันทร์และวันอังคาร ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองริกา เช่นเดียวกันโดยใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดและยิงขีปนาวุธจากเรือรบ
+++นายมูซา มากาจิ มาเจียโฆษกตำรวจเมืองคาโนทางตอนเหนือของประเทศไนจีเรียแถลงว่าเกิดเหตุระเบิดสองครั้งในบริเวณตลาดฟาร์มเซ็นเตอร์ตลาดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่พลุกพล่านในเมืองคาโนไนจีเรีย เมื่อเวลาประมาณ 16.00น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น มือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นผู้หญิง2คน อายุเพียง11ปี และอีกคนอายุ18ปีลงจากรถมินิบัสมาด้วยกันคนหนึ่งเข้าไปในตลาดและอีกคนรออยู่ข้างนอกจากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว15ศพ ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันอังคาร มีผู้เสียชีวิต 32ศพในเหตุระเบิดที่เมืองโยลาทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ก่อนหน้านี้กลุ่มหัวรุนแรงโบโก ฮารามเคยใช้เด็กผู้หญิงเป็นมือระเบิดในการก่อความไม่สงบทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียในช่วง6ปีที่ผ่านมาคร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง17,000ศพและไร้ที่อยู่อาศัย2.6ล้านคน เมื่อเดือนก.ค.2557เมืองคาโนถูกโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายถึง4ครั้งภายใน1สัปดาห์โดยมือระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นหญิงสาวซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีทางที่พวกเธอจะสมัครใจที่จะสังหารผู้คนอย่างโหดร้ายเช่นนี้ “
+++ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(18พ.ย.) ฟื้นตัวในกรอบแคบๆ หลังสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 40.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 44.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล เป็น 487.3 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลานี้ของปี แต่น้อยกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านบาร์เรล
++++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนตุลาคม แสดงให้เห็นว่าเหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 247.66 จุด ปิดที่ 17.737.16 จุด
++++รายงานจากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27-28 ตุลาคม เผยให้เห็นว่าสมาชิกบางส่วนมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี คาดว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปัจจุบันน่าจะเหมาะสมเพียงพอสำหรับขยับขึ้นดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้
+++ด้านราคาทองคำปิดบวก ในกรอบแคบๆในวันพุธ(18พ.ย.) หลังแกว่งตัวอยู่ในแดนลบทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 1,068.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++รูปร่างหน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์ของนายกรัฐมนตรีแคนาดาและประธานาธิบดีเม็กซิโก ท่ามกลางการรวมตัวเหล่าผู้นำโลกในฟิลิปปินส์ สวนกระแส สื่อสังคมออนไลน์ของฟิลิปปินส์ ที่ตำหนิ ปัญหาความวุ่นวายด้านการจราจร จากมาตรการรักษาความปลอดภัยอันของที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซีย-แปซิฟิก(เอเปก) อารมณ์ความรู้สึกที่แปรเปลี่ยนไปหลัง ชาวฟิลิปปินส์เกิดไปหลงเสน่ห์นัยน์ตาชวนฝันของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาและประธานาธิบดีเอนริเก เปญา เนียโต แห่งเม็กซิโกเข้าเต็มเปา ขณะเดียวกันชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากหลั่งไหลเข้าไปยังสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อประกาศว่านักการเมืองหนุ่มหล่อนคนไหนที่พวกเขาชื่นชอบ
+++นิตสารพีเพิ่ลประกาศยกย่องให้เดวิด เบ็คแฮม ยอดนักฟุตบอลอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ให้เป็นผู้ชายเซ็กซี่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ ประจำปีนี้เบ็คแฮม วัย 40 ปี กล่าวภายหลังรับมอบรางวัลในวาระครบรอบ 30 ปี ของนิตยสารพีเพิ่ลว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและยินดีที่จะรับรางวัลนี้ แต่ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนหน้าตาดี หรือ เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่เลย