*กรธ.เห็นว่า การเลือกตั้งส.ว.ทางตรงเป็นทางเลือกสุดท้าย*

การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ประชุม มีการเสนอความคิดหลากหลาย ยอมรับว่าการได้มาของบุคคลที่มีความรู้มาช่วยกลั่นกรองงานด้านกฎหมาย ต้องมีอิสระในการทำงาน ปราศจากการแทรกแซงด้านการเมือง เป็นเรื่องความละเอียดอ่อนซับซ้อน ที่ประชุมหารือเรื่องหลายประเด็น เช่น ส.ว.จะมาจากกลุ่มอาชีพ หรือสภาท้องถิ่น ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ที่ประชุมเห็นว่าการเลือกตั้ง ส.ว.ทางตรงยังเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะไม่เช่นนั้นการได้มาของ ส.ว.ก็จะไม่ต่างจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ที่ประชุมยังมีความคิดที่ว่า ส.ว. จะไม่มีอำนาจในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ยังคงเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการองค์กรอิสระได้

ส่วนการพิจารณาในการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่ประชุมได้กำหนดสโลแกนในการร่างรัฐธรรมนูญ คือ ร่วมคิด ร่วมร่าง ร่วมสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ ขณะเดียวกัน ยังกำหนดหลักการบทบาททั่วไปของศาลในเรื่องต่าง ๆ โดยกำหนดให้มี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่นเดิมและให้สามารถยืนอุทธรณ์ได้ ภายใน 30 นับตั้งแต่มีคำพิพากษา ซึ่งเป็นเรื่องใหม่เพราะก่อนหน้านี้ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ พร้อมยืนยันว่า การที่ให้สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ไม่สามารถลดความเข้มข้นในการดำเนินงานของศาล แต่เป็นการเปิดโอกาสในการพิจารณาคดีมากขึ้น

ขณะเดียวกัน คงบทบาทคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ที่มีหน้าที่ กำหนดหลักการเกี่ยวกับอำนาจพิจารณาพิพากษา กำหนดเรื่องการแต่งตั้ง การโยกย้าย การเลื่อนเงินเดือน หรือตำแหน่งและการบริหรงานบุคคล

ส่วนจะมีการพิจารณาให้มีศาลวินัยทางการเงินการคลังหรือไม่ ขณะนี้ กรธ. ยังไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ คณะอนุกรรมการรับฟังและสรุปความคิดเห็นที่มีผู้เสนอแนะ จะมีการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเฉพาะต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบด้วย 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปฏิรูปด้านการศึกษา กลุ่มการค้าเสรี กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มคุ้มครองสิทธิสตรี กลุ่มสื่อสารมวลชน กลุ่มทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมาคมผู้ดูแลเว็ปไทย เพื่อนำความเห็นไปประกอบการร่างรัฐธรรมนูญต่อไป

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี