หลังจากที่กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสอ้างเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่มัสยิดในกรุงเบรุตของเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 40 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน กระทรวงกิจการภายในเลบานอนเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายทั้ง 2 คน ประกอบไปด้วยชาวซีเรีย 7 คนกับชาวเลบานอนอีก 2 คน
สำหรับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในพื้นที่ของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ทางใต้ของกรุงเบรุต เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน หรือก่อนหน้าเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยเป็นที่ชัดเจนว่า กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ สนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดแห่งซีเรีย สำนักข่าวของทางการระบุว่า จุดที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุดอยู่ห่างจากกันไม่ถึง 150 เมตร และคนร้ายจุดชนวนระเบิดห่างกัน 5 นาที ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 40 คนบาดเจ็บอย่างน้อย 239 คน อาคารสูง 4 หลังได้รับความเสียหายฝังผู้ที่อยู่ในอาคารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในการที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำคนร้ายคนหนึ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จในการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย เขาสารภาพว่า เป็นนักรบของไอเอสจริง และบรรดามือระเบิดฆ่าตัวตายทั้งหมดยังเป็นเครือข่ายของไอเอสที่อยู่ในเลบานอน ที่แทบไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก หลังจากที่ก่อเหตุระเบิดรถยนต์ในเมืองหลวงเมื่อปีที่แล้ว แต่เป็นเวลานับสิบปีมาแล้วที่ เลบานอนมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่ม รวมถึงกลุ่มที่หลบหนีมาจากซีเรียที่เป็นเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เลบานอน ยังมีการยกย่องนายอเดล เทอร์มอส เป็นวีรบุรุษเนื่องจากการสละชีวิตของตนเองเพื่อสกัดมือระเบิดฆ่าตัวตาย โดยหลังจากที่คนร้ายคนแรกจุดชนวนระเบิดที่มัสยิดชีอะห์แห่งหนึ่งแล้วจะมีประชาชนเข้าไปมุงดูเหตุการณ์ มือระเบิดคนที่ 2 ก็จะแฝงตัวเข้าไปอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ แต่นายอเดลที่กำลังอุ้มลูกสาวอยู่พบเห็นท่าทีที่ผิดปกติของชายคนนี้ จึงตัดสินใจพุ่งชนมือระเบิดรายนี้ก่อน ทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตที่จุดนี้ และช่วยให้ประชาชนอีกนับนร้อยคนรอดชีวิต
..F163..