ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++รัฐบาลเห็นชอบออกมาตรการหนุนการลงทุน นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. มีมติเห็นชอบให้ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล ฯลฯ เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยจะเพิ่มสิทธิพิเศษ นอกเหนือสิทธิประโยชน์จากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
+++สิทธิพิเศษที่กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจะได้รับเพิ่ม เช่น เพิ่มระยะเวลาเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ 10-15 ปี ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ตั้งกองทุนสนับสนุนการลงทุนในแต่ละอุตสาหกรรม ให้สิทธิ ต่างชาติเช่าที่ดินระยะเวลา 99 ปี ฯลฯ คาดว่าใน 5 อุตสาหกรรมใหม่ที่มีการต่อยอดจากของเดิมนั้น จะช่วยสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น 70% ขณะที่อุตสาหกรรมใหม่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 30%
+++ ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสมคิดชี้แจงในที่ประชุม ครม. ว่า กระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยไปเจรจากับบริษัทขนาดใหญ่ ให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม เป้าหมาย นายสมคิด กล่าวว่า ขอสัญญาว่าในไตรมาส 4 เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นแน่ เพราะทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะขับเคลื่อนออกไป ขอให้คนในประเทศมั่นใจ อย่ารอแต่เพียงให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน และในปีหน้าจะเป็นปีแห่งการลงทุน
+++วันนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะแสดงปาฐกถาพิเศษ "ยกเครื่องเศรษฐกิจใหม่ Thailand's New S-Curve" ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบให้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยสากล โดยวิธีการเฝ้าตรวจตราอย่างต่อเนื่อง(ยูแซป) ระหว่างองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) กับราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ไอซีเอโอเข้ามาตรวจสอบการกำกับดูแลสนามบินของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสุ่มการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยสนามบินบางแห่ง จากทั้งหมด 38 แห่ง ได้แก่ สนามบินของบริษัทท่าอากาศยานไทย (จำกัด) มหาชน หรือ ทอท. 6 แห่ง กรมท่าอากาศยาน 28 แห่ง สนามบินเอกชน 3 แห่ง และสนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือ คาดว่าไอซีเอโอจะเข้ามาตรวจสอบไทยได้ประมาณปี 60 แต่จะมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้ามา 120 วัน
ในส่วนของ กทพ.ต้องเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร 2 ส่วนคือ การดูแลการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจการบินในไทยและออกใบรับรองด่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินทั้งเครื่องบิน นักบิน ลูกเรือ ที่เป็นองค์ประกอบการทำธุรกิจสายการบินและการตรวจสอบการกำกับดูแลมาตรฐานของสนามบินให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สอดคล้องกับไอซีเอโอ
++++ด้ายนายจรูญ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยานกล่าวว่า ไทยต้องเร่งแก้ไขการรักษาความปลอดภัยให้เสร็จก่อน ที่ไอซีเอโอเข้ามาตรวจ โดยสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือบุคลากรภายใน 28 สนามบิน ยังมีไม่เพียงพอในการให้บริการ ต้องเร่งขอเพิ่มกำลังอีก 100-200 คน รวมถึงกฎหมาย และกฎระเบียบก็ต้องเร่งแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เนื่องจากท่าอากาศยาน 28 แห่ง ยังไม่มีการออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะเหมือนกับสนามบินของ ทอท. และเอกชนดังนั้นกรมท่าอากาศยานต้องเร่งยื่นขอใบรับรองจาก กพท.เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลในการดำเนินงานเป็นสนามบินสาธารณะ
++++ ในวันที่ 4 ธ.ค.2558 นี้ นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย จะดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี และถึงกำหนดที่จะต้องประเมินผลการทำงานรอบที่ 2 โดยรอบแรกเมื่อเดือน พ.ค.58 ซึ่งผลประเมินผ่านสำหรับครั้งที่ 2 นี้ หากพิจารณาจากผลการดำเนินงาน นายจรัมพรต้องสอบตก เพราะผลการดำเนินงาน 3 ไตรมาสของปี 2558 (ม.ค.-ก.ย.) ขาดทุนถึง 18,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีว่าจ้างที่ปรึกษาส่วนตัวชาวต่างชาติ วงเงิน 10.5 ล้านบาท สัญญาจ้าง 6 เดือน และจ้างบริษัทที่ปรึกษา เข้ามาจัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทย และแผนการบริหารงานในส่วนต่างๆ และพบว่าไม่สามารถลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณไม่พอใจการบริหารงานของการบินไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ตำหนิเรื่องบริการบนเครื่องบิน และยังกังวลต่อการบริหารการบินไทยที่ประสบภาวะขาดทุน รวมถึงได้เสนอให้มีการทบทวนสิทธิประโยชน์ของบอร์ดและผู้บริหาร และให้ฝ่ายบริหารทบทวนแผนฟื้นฟูการบินไทย เป็นการด่วน และเสนอกลับไปภายใน 30 พ.ย.นี้
+++สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลปรับลดจำนวนจองซื้อสลากล่วงหน้า จากเดิมสูงสุดคนละ 15 เล่ม เหลือเพียง 5 เล่ม พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ตัดสินใจปรับลดจำนวนการจองซื้อสลากล่วงหน้าจากเดิมสูงสุดคนละ 15 เล่ม เหลือเพียง 5 เล่มเท่านั้น เพื่อหวังกระจายให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงสลากได้มากขึ้น คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสลากรายย่อยจากปัจจุบันที่สามารถจองซื้อในแต่ละงวดได้ประมาณ 1.4-1.5 หมื่นรายเป็น 4 หมื่นกว่าราย ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของผู้ค้ารายย่อย เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาการจองสลากผ่านระบบอินเทอร์เน็ตใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที จากผู้เข้าระบบการจองประมาณ 5 หมื่นราย ขณะที่มียอดการลงทะเบียนแล้วกว่า 1 แสนราย
++++ เศรษฐินีเมืองสงขลาเข้ามอบตัวกองปราบฯ คดีจ้างวานฆ่าลูกสะใภ้ขณะตั้งครรภ์ 3 เดือน นางจุรี จันทร์งาม อายุ 72 ปี ชาวชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ สช.75/2558 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2558 ข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ป.สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิง น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน จนเสียชีวิต ศาลฎีกาจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งไต่สวนการตายของนางจุรี จนที่สุดจึงทราบเป็นที่แน่ชัดว่า นางจุรีไม่ได้ถึงแก่ความตายตามที่กล่าวอ้าง และเชื่อว่านางจุรีมีพฤติกรรมจงใจหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ต่อมาศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาลับหลัง ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่นายวิกรม บุตรชายของจำเลย ให้การเป็นพยานในชั้นสอบสวน จึงเป็นเหตุบรรเทาโทษให้แก่จำเลย คงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายนรินทร์ จำเลยอีกราย ศาลพิพากษายืนให้ประหารชีวิต ด้านนางจุรีให้การปฏิเสธ อ้างว่าถูกใส่ร้าย ตนไม่ได้จ้างใครไปฆ่า น.ส.ริ้วแพร ว่าที่ลูกสะใภ้แต่อย่างใด พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เตรียมเชิญตัวนายสมพจน์ นวลพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้รับรองการเสียชีวิตของนางจุรี มาสอบปากคำ นอกจากนี้ก็จะได้เรียกนายอาคม ตรงอิทธิกุล หรือ "โกคิ้ม" หัวหน้ามูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการนำหนังสือรับรองการเสียชีวิตของนางจุรีไปให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมณีสพ และ น.ส.รัศมี จันทร์งาม บุตรสาวของนางจุรี นำไปยื่นเป็นหลักฐานการตาย แสดงต่อศาลจังหวัดสงขลา มาสอบปากคำด้วย
+++ศาลพิพากษาคดี นายหนุ่ยหรือติ๊งต่างหรือเดช หรือขุนเดช เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำชำเราเด็กชาย พรากผู้เยาว์ ซ่อนเร้นทำลายศพ ฯลฯ ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.56 ที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ประหารชีวิต คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษ ให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายติ๊งต่างจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาฟังคำพิพากษาในชุดนักโทษ โดยก่อนหน้านี้นายติ๊งต่างได้กระทำผิดลักษณะเช่นเดียวกันนี้มาแล้ว 2 คดี และศาลได้พิพากษาจำคุกไว้ตลอดชีวิตทั้ง 2 คดี
+++โดม-ปกรณ์ ลัม เข้าให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แล้วเมื่อวันที่ 17 พ.ย. กรณีโพสต์ภาพคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยืนยันไม่ได้มีการรับเงิน ไม่ได้มีข้อความจูงใจ เชิญชวน ให้คนดื่ม ที่โพสต์เพราะเป็นไลฟ์สไตล์ ไม่ได้มีเจตนา และทำเพราะไม่ทราบกฎหมายและรับผิดชอบการกระทำ ด้วยการลบภาพทั้งหมดออกสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม พบว่า การห้ามดารานักร้องนักแสดงนักกีฬา โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มวัยรุ่นไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ร้อยละ 52.56 เห็นด้วยที่จะมีการห้ามโพสต์รูปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฏอยู่ในทุกๆกรณี และร้อยละ 76.32 เห็นด้วยที่มีการกำหนดห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์