*เยอรมนีถูกกดดัน ให้ทบทวนนโยบายรับผู้อพยพเข้าประเทศ หวังผู้ก่อการร้ายสวมรอย*

นายมาร์คุส เซอเดอร์ รัฐมนตรีการคลังของรัฐบาเยิร์น เรียกร้องนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ทบทวนนโยบายรับผู้อพยพเข้าประเทศ โดยขอให้คำนึงถึงเหตุวินาศกรรมที่เกิดขึ้นในกรุงปารีส เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุบางส่วนแฝงตัวเข้าสู่ยุโรปในคราบผู้อพยพ ดังนั้น การเดินหน้าเปิดพรมแดนต่อไปถือเป็น "ความผิดพลาด"

นายฮอร์ส เซโฮเฟอร์ มุขมนตรีรัฐบาเยิร์น กล่าวตำหนิเซอเดอร์ว่าไม่ควรแสดงความคิดเห็นลักษณะนี้ในช่วงเวลาที่ยุโรปกำลังต้องการความสามัคคี ขณะที่นายโธมัส เดอ ไมเซียร์เร รมว.กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนี กล่าวเตือนทุกฝ่ายว่าไม่ควรเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสกับวิกฤติผู้อพยพที่ยุโรปกำลังเผชิญ แม้มีรายงานออกมาเป็นระยะว่า แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเยอรมนีเพิ่มกำลังและความเข้มงวดในการตรวจตราหนังสือเดินทางของผู้อพยพที่เดินเท้าผ่านแดน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่หลุดรอดการตรวจสอบไปได้

ด้านว่าที่รัฐบาลโปแลนด์ชุดใหม่ประกาศกร้าวไม่ขอรับผู้อพยพเพิ่มอีก ตามมาตรการจัดสรรโควต้าครั้งใหม่ของสหภาพยุโรป ( อียู ) ส่วนรัฐบาลสโลวาเกียเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่สมาชิกของกลุ่มไอเอสแฝงตัวเข้าสู่ยุโรปโดยปะปนกับกลุ่มผู้อพยพ ทั้งนี้ สโลวาเกียและฮังการีเป็น 2 ประเทศที่กล่าวหาเยอรมนีอย่างเปิดเผยและต่อเนื่อง ว่าวิกฤติผู้อพยพครั้งนี้เป็นผลจากนโยบายเปิดพรมแดนของรัฐบาลเยอรมนีด้วย ขณะที่ฝ่ายค้านเนเธอร์แลนด์เรียกร้องให้รัฐบาลปิดพรมแดนบางส่วนเช่นกัน ตราบใดที่ยังไม่สามารถจำแนกผู้ก่อการร้ายออกจากกลุ่มผู้อพยพได้อย่างชัดเจน