ตำรวจและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฝรั่งเศสและเบลเยียมร่วมปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายครั้งใหญ่เพื่อไล่ล่า นายอับเดสลาม ซาลาห์ อายุ 26 ปี หน่งในผู้ร่วมก่อการร้ายกรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 129 คน ตำรวจระบุว่า เขาคือผู้ต้องหาคนสำคัญ และเป็นบุคคลอันตราย โดยหลังจากที่ร่วมก่อเหตุในคืนวันศุกร์แล้ว เขาก็พยายามหลบหนีข้ามพรมแดนไปเบลเยี่ยมในวันเสาร์ ซึ่งเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบถามด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็กลับปล่อยตัวไปพร้อมกับชายอีก 2 คนที่อยู่ในรถคันเดียวกัน อย่างไรก็ตามผลการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุโจมตีรถที่เขาใช้ในการหลบหนีจอดอยู่ใกล้กับบาตากล็อง คอนเสิร์ต ฮอลล์ สถานที่ที่มีผู้เสียชีวิต 89 คนซึ่งมากที่สุดของการก่อการร้ายในครั้งนี้
ขณะที่การสืบสวนสอบสวน เน้นไปที่เบลเยียม เนื่องจากเป็นที่พักของผู้ต้องสงสัยหลายคน โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากระเบิดฆ่าตัวตาย 7 ศพนั้น 3 ใน 7 คนนี้เป็นชาวเบลเยียม และหนึ่งในนี้คือนายบราฮิม อับเดสลาม อายุ 31 ปีพี่ชายของนายซาลาห์เอง โดยเขาจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานบันเทิงใกล้บาตากล็อง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน ส่วนนายโมฮัมเหม็ด อับเดสลาม ที่เป็นน้องชายคนเล็กของครอบครัวนี้ถูกจับกุมที่เมืองโมเลนเบค ในเบลเยียม ขณะที่กำลังเดินทางกลับมาจากปารีส ซึ่งตำรวจเบลเยียมเปิดเผยว่า ในขณะนี้มีผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ทั้งสิ้น 7 คน
ยังมีผู้ก่อเหตุอีกคนที่เสียชีวิตที่สนามฟุตบอลสต๊าดเดอฟร็องซ์ คือนายบิราล ฮัดฟี อายุ 20 ปีที่พักอยู่ในเบลเยียม ทำให้ทางการเบลเยียมระดมกำลังกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงที่อยู่ในโมเลนเบค
ส่วนนายอิสมาอิล โอมาร์ มอสเตฟีอายุ 29 ปีที่จุดชนวนระเบิดที่บาตากล็องนั้นเป็นชาวฝรั่งเศส และมีประวัติก่ออาชญากรรม
กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศว่า เป็นผู้ลงมือก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส ทั้งสถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงละคร จนถึงสนามกีฬาหลักของประเทศ เพราะต้องการลงโทษที่ฝรั่งเศสร่วมในปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย แต่ก็ทำให้ฝรั่งเศสตอบโต้อย่างหนักด้วยการระดมทิ้งระเบิดนำวิถีโจมตีที่มั่นของกลุ่มไอเอสในเมืองรักกา ประเทศซีเรียอย่างต่อเนื่อง
...