เมืองไทยฯ(2):ศสช.แถลงจีดีพี/คลังเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ/เกษตรเตรียมแจกพืชไร่ใช้น้ำน้อย

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ EOC (Emergency Operation Center) หรือศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินจังหวัด ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เร่งแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออกในแต่ละพื้นที่โดยเร็ว โดยพิจารณาการใช้งบประมาณที่ไม่ซ้ำซ้อน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชน เนื่องจากปีนี้มีผู้ป่วยไข้เลือดออกจำนวนมาก

ข่าวเศรษฐกิจวันนี้ นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 3 และแนวโน้มปี 2559 ภายหลังการโจมตี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง แจ้งการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 วงเงิน 2 ล้าน 7 แสน 2 หมื่นล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ มีการเบิกจ่าย 3 แสน 5 หมื่น 9 พันล้านบาท หรือร้อยละ 13.2 ของงบประมาณทั้งหมด แบ่งเป็นการเบิกจ่ายงบประจำ วงเงิน 2 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้ 3 แสน 3 หมื่น 6 พันล้านบาท หรือร้อยละ 15.4  และงบลงทุน 5 แสน 3 หมื่น 8 พันล้านบาท เบิกจ่ายได้ 2 หมื่น 3 พัน 5 ร้อยล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 ของงบลงทุนทั้งหมด ถึงแม้ว่าการเบิกจ่ายจะสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2558 ที่เบิกจ่ายได้ 1 หมื่น 4 พัน ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3 แต่ก็ยังน้อยกว่าที่รัฐบาลต้องการ

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยการจัดเก็บภาษีของกรมในเดือนแรกปีงบประมาณ 2559 จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้ากว่า 300 ล้านบาท ทำให้ต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ เพื่อให้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย 1 แสน 2 หมื่น 4 พันล้านบาท โดยเฉพาะภาษีนำเข้า ที่มีช่องว่างทั้งการแจ้งอัตราภาษีไม่ถูกต้อง และสำแดงราคานำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมได้เตรียมแผนรับมือภัยแล้งตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำรองเมล็ดพันธุ์พืชไร่ที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุเก็บเกี่ยวสั้น ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ประมาณ 2 พัน 3 ร้อยตัน เพื่อแจกจ่ายเกษตรกรนำไปปลูกในช่วงหน้าแล้ง (ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558-มกราคม 2559) สร้างรายได้ทดแทนการทำนาปรัง แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในการปลูกข้าวโดยเฉพาะพื้นที่ 22 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา และช่วยให้เกษตรกรสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้ โดยจะเริ่มส่งมอบเมล็ดพันธุ์ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน-15 ธันวาคมนี้

ความคืบหน้าการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ตามนโยบายของรัฐบาล นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังมีการหารือกับกรมธนารักษ์ และผู้ประกอบการ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องที่จะให้เอกชนก่อสร้าง โดยเบื้องต้นเป้าหมายจัดสร้างจำนวน 1 ล้านยูนิตใน 10 ปีข้างหน้า

ส่วนข่าวอาชญากรรม ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดเหตุการณ์มีรถกระบะขับชนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แล้วหลบหนีไป ขณะที่นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.05 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 บนถนนสายทวีราษฎร์ภักดี (สายรอบเกาะ) หน้าโรงแรมบันดารา หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยพบว่า ผู้บาดเจ็บคือ นายอามีร์ โคเฮน อายุ 43 ปี สัญชาติอิสราเอล พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ร.พ.บ้านดอนอินเตอร์สมุย ส่วนคนขับรถกระบะคันนี้ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว คือ นายสนอง สงกุล อายุ 45 ปี อยู่ใน อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี โดยรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ขับรถกระบะคันเกิดเหตุจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี แต่กลัวว่าจะได้รับอันตราย เพราะมีคนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแล้วไม่หยุดช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุแสดงตนแก่เจ้าหน้าที่ใกล้เคียงโดยทันที จากนั้นจึงปล่อยตัวไปเพราะผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี

ยังมีคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิ แจ้งเรื่องมีผู้ที่บอกกับเจ้าหน้าที่ว่ามีระเบิดแสวงเครื่องอยุ่ในกล่อง โดยร.ต.ท.ธนนรินทร์  คำริห์ รอง สวป.สภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ  ไปตรวจสอบพบนายวัฒนา ภาคจรูญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 284/1 ซอยลาดกระบัง 1 เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาด 9x12 นิ้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระบุว่า นายวัฒนา ถือกล่องกระดาษมาที่จุดตรวจ เพื่อขอผ่านเข้าไปภายในพื้นที่หวงห้าม จึงขออนุญาตตรวจค้นตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเพิ่งมีการกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ขณะที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น นายวัฒนาก็กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "ข้างในมีระเบิดแสวงเครื่องนะ"  จึงรีบควบคุมตัวและแจ้งผู้บังคับบัญชา แต่ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นใบเสร็จรับเงินของรถเช่าประจำสนามบิน (AOT LIMOUSIVE) ไม่มีวัตถุอันตรายแต่อย่างใด

ด้านนายวัฒนา ให้การว่า เป็นพนักงานยกกระเป๋าของรถเช่าประจำสนามบิน  (ลีมูซีน) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพูดไปด้วยความคึกคะนอง ไม่ได้มีเจตนาสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "แจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จและการนั้นเป็นเหตุหรืออาจเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานตื่นตกใจ"

*-*