ทันสถานการณ์ฯ:ชาวฝรั่งเศสอย่างน้อย3คนร่วมอยู่ในกลุ่มก่อการร้าย/นานาประเทศร่วมตอบโต้ไอเอส*

ตามที่กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ก่อการร้ายที่กรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 129 คน และบาดเจ็บอีก  352 คน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส ต้องยกเลิกแผนการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 ที่ประเทศตุรกี

นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ ของฝรั่งเศส ประกาศว่า ฝรั่งเศสจะตอบโต้กลุ่มไอเอสด้วยความรุนแรงเช่นเดียวกัน และกล่าวว่า ไอเอส เป็นศัตรูที่มีการรวมกลุ่มจัดองค์กรในระดับที่ดีมาก

ไอเอส ประกาศด้วยว่า เป็นโจมตีสั่งสอนฝรั่งเศส และจะโจมตีทุกประเทศที่มีนโยบายเหมือนกับฝรั่งเศส

ตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยชื่อและภาพของชายผู้ต้องสงสัยซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัว ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันศุกร์ คือนายอับเดสลาม ซาลาห์ อายุ 26 ปี เกิดในประเทศเบลเยียม โดยตำรวจขอให้ผู้ที่รู้จักผู้ต้องสงสัยให้เบาะแสข้อมูล แต่เตือนด้วยว่าชายคนนี้เป็นบุคคลอันตราย 

ผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติในเบื้องต้นพบว่าเป็นชาวเบลเยียม 3 คน อังกฤษ 1 คน  ชิลี 3 คน โมร็อกโก 1 คน โปรตุเกส 2 คน โรมาเนีย 2 คน สเปน 1 คน สวีเดน 1 คน ตูนิเซีย 1 คน สหรัฐอเมริกา 1 คนและชาวเม็กซิโก 2 คน

ส่วนการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ  ตำรวจฝรั่งเศสระบุตัว 1 ใน 7 ของผู้ที่ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายคือนาย โอมาร์ อิสมาอิล มอสเตเฟอายุ 29 ปี ซึ่งถูกระบุตัวตนจากชิ้นส่วนอวัยวะที่พบในห้องโถงของดรงละครบาตากล็อง สถานที่เกิดเหตุที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด กับมีการตรวจสอบหนังสือเดินทางซีเรียของชายอายุ 25 ปี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนผู้ลี้ภัยที่กรีซเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม

นอกจากนี้ยังมีเบาะแสคนร้ายอีก 2 คนที่เป็นชาวฝรั่งเศส โดยคนหนึ่งอาศัยอยู่ในกรุงบรัสเซลล์ 

กับพบรถต้องสงสัยที่ถูกจอดทิ้งไว้ย่านชานเมืองด้านตะวันออกของปารีส ภายในรถมีอาวุธปืนเอเค 47 จำนวนมาก กับพบว่าคนร้ายที่จอดรถคันนี้ทิ้งไว้ เปลี่ยนไปขับรถอีกคันมุ่งหน้าไปเบลเยียม ซึ่งในวันเสาร์ ตำรวจที่เบลเยียมจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 คน และตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่อการร้ายที่ปารีส ซึ่งนายกรัฐมนตรีชาร์ลส์ มิเชล ของเบลเยียม เปิดเผยว่ามีอยู่หนึ่งในกลุ่มนี้ อยู่ที่หอแสดงคอนเสิร์ตบาตากล็อง

ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศส สำนักสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) และสำนักข่าวกรองอิสราเอล ร่วมกันทำงานสืบสวนสอบสวน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ แถลงว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นแค่การโจมตีกรุงปารีส แต่เป็นการโจมตีมนุษยชาติและค่านิยมสากล

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี กล่าวว่า ชีวิตที่มีเสรีภาพของพวกเราเข้มแข็งกว่าการก่อการร้าย

นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เห็นว่า เป็นการก่อการร้ายที่แสดงให้เห็นถึงการวางแผนและการประสานงานในอีกระดับหนึ่ง เพื่อให้เกิดความสูญเสียรุนแรง โดยรัฐบาลอังกฤษยังมีการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้

นายคอนราด ซีมานสกี ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงกิจการยุโรปคนใหม่ของโปแลนด์ ยืนยืนยันว่า โปแลนด์จะยังใช้นโยบายไม่รับผู้อพยพที่สหภาพยุโรปหรืออียูกำหนดสัดส่วนไว้ เพราะกังวลว่า อาจนำไปสู่การก่อการร้ายเหมือนกับที่ฝรั่งเศส

นายกรัฐมนตรี มาร์ก รุตเต ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศเพิ่มการรักษาความปลอดภัยที่แนวชายแดนและสนามบินต่างๆ

ส่วนเบลเยียม เพิ่มการควบคุมพรมแดน และเตือนพลเมืองไม่เดินทางไปปารีสหากไม่มีความจำเป็น

ด้านคณะกรรมาธิการต่อต้านก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูงทั่วประเทศเพื่อระวังภัยคุกคามด้านก่อการร้าย

ทางการเกาหลีใต้เตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังฝรั่งเศสเช่นกัน

กองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐอเมริกาโจมตีที่มั่นของกลุ่มไอเอสและผู้นำของไอเอสในซีเรียและอิรัก โดยเมื่อคืนนี้ กองทัพฝรั่งเศสระดมโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอส 20 แห่งในเมืองรักกาที่ซีเรีย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐ  ประกาศความสำเร็จในการสังหารอาบู นาบิล หรือว่า วิสซัม นัจม์ อับด์ เซย์ด อัลซูเบย์ดี  ผู้นำระดับสูงของกลุ่มไอเอสในซีเรีย ซึ่งเคยมีภาพของเขาในการสังหารชาวคริสเตียนนิกายคอปติกออร์โธดอกซ์ในลิเบีย โดยนาบิลเป็นชาวอิรัก ซึ่งปฏิบัตินี้ของกองทัพสหรัฐได้รับอนุมัติก่อนที่จะมีการก่อการร้ายที่กรุงปารีส

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียและประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เข้าร่วมการประชุมจี 20 ตามกำหนดเพื่อส่งสัญญาณว่านานาชาติพร้อมร่วมกันต่อต้านภัยก่อการร้าย โดยในการประชุมนอกไปจากการหารือเรื่องเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลักแล้ว จะมีการหารือกันในประเด็นความมั่นคงวิกฤติผู้อพยพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก รวมถึงการเลี่ยงภาษีด้วย

นายโรลองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีการต่างประเทศฝรั่งเศส แถลงยืนยันว่าการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือซีโอพี 21 (COP21) ที่จะมีขึ้นในกรุงปารีสระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมจะยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม เช่นเดียวกับนายฌักส์ ล็องแบร์ ประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2016 ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพของฝรั่งเศส ในการแข่งขันฟุตบอลที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน-10 กรกฎาคม ปีหน้า ซึ่งเป็นกำหนดเดิม แม้สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ เพิ่งตกเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่กลุ่มก่อการร้ายลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยจะยกระดับความปลอดภัยทั้งในและนอกสนาม 

..