หลังการประชุมเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ในเรื่องเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับมอบหมายมาบอกเล่าให้ได้รับทราบในเรื่องที่รัฐบาลกำลังดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และในส่วนของการเร่งเดินหน้าเพื่อปฏิรูปประเทศ ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังต้องดูแลเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันสิ่งต้องให้ความสำคัญมากคือการปฏิรูปด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเติบโตจากภายในประเทศ การแก้ไขความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยพร้อมแล้วที่จะบอกสู่ชาวโลกถึงการพัฒนาในขณะนี้
นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเอกอัคราชทูตถึงยุทธศาสตร์ในการวางตัวให้ไทยมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก โดยทำให้ไทยสามารถเป็นจุดศูนย์กลางช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน และการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน และการที่จะก้าวไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพใหม่ๆ ซึ่งกันในอนาคตต้องการให้มีการประชุมในระดับรัฐบาลกับรัฐบาลมากขึ้น ขณะเดียวกันบทบาทของการทูตไม่เพียงสร้างความเข้าใจให้ชาวโลกยังสามารถให้ผลักดันในเรื่องธุรกิจให้ไทยส่งออกมากขึ้น และให้ข้อมูลนักธุรกิจที่ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยทูตไทยประจำประเทศเยอรมันนีก็ยังแจ้งต่อที่ประชุม ว่าเยอรมันนีมีความพร้อมในการช่วยไทยในเรื่องเทคโนโลยี
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทูตทุกคนมีหน้าที่ผลักดันในเรื่องเศรษฐกิจอยู่แล้วซึ่งได้ดำเนินงานมาตลอด ส่วนด้านการเมือง เอกอัครราชทูตต้องชี้แจง เพราะบางประเทศอาจยังมีความสนใจ แต่หลายประเทศทราบว่าประเทศไทยอยู่ในกระบวนการและรอเป้าหมายในปี 2560 นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ก็ยังจะมีการแลกเปลี่ยนมุมมองของทูตที่ประจำแต่ละประเทศในเรื่องต่าง ๆ เช่นการที่ไทยเป็นประธานในกลุ่มประเทศจี77อีกด้วย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี