การประชุมเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ทั่วโลก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายเน้นเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะกระทรวงการต่างประเทศ เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับเศรษฐกิจโลก การที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นประธานกลุ่ม G-77 ในวาระปี 2559 ก็สะท้อนให้เห็นว่านานาชาติให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในไทย ประเทศไทย ต้องส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ภายใต้นโยบาย thailand +1 โดยจะร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV นายกรัฐมนตรี กล่าว่า จะต้องขยายความเชื่อมโยงผ่านเส้นทางคมนาคม แต่ขณะเดียวกันก็ดูแลความปลอดภัยในจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ นโยบายเศรษฐกิจหลักของรัฐบาล คือ สร้างความเติบโตจากภายใน ให้มีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือผ่านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ การเป็นศูนย์กลางในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลกำลังปรับปรุงสิทธิประโยชน์ด้านการค้า การลงทุน ผ่านการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน( BOI) เน้นการส่งเสริมลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยรักษาความสมดุลของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศมหาอำนาจ และไม่สร้างความขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการทูตเชิงเศรษฐกิจว่า รัฐบาลมีมาตรการระยะเร่งด่วนที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม( SMEs) จึงขอให้เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ช่วยกันผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งในระดับย่อยและในระดับโครงสร้าง ให้ไทยมีความเข้มแข็ง มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาหลายอย่างอย่างจริงจังเพื่อยกระดับมาตรฐานของไทยสู่สากลให้เป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือ IUU การค้ามนุษย์ มาตรฐานการบิน และแรงงานผิดกฎหมาย สำหรับการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ขอให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งให้ความสำคัญกับการเป็นศูนย์ดำรงธรรมในต่างประเทศและเป็นที่พึ่งของคนไทย ร่วมกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยในต่างประเทศ ส่วนการจัดงานปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad เดือนหน้าก็จะเป็นโอกาสดีที่จะได้มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี