*รอบวัน:นายก-ทีมศก.ประชุมทูตทั่วโลก/นปช.อุบลพบนายกฯ/สนช.ลงมติถอดถอนสมศักดิ์ หรือไม่*

13 พฤศจิกายน 2558, 08:55น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



++++การลงพื้นที่จ.อุบลราชธานีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินตรวจเยี่ยมและพบปะประชาชนในตลาดประชารัฐอยู่นั้น นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.อุบลราชธานี ประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอพบพูดคุยกับนายกฯเพื่อเสนอตนเข้าร่วมพัฒนาประเทศ โดยทันทีที่พบ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับนายจำรูญศักดิ์ว่า "เป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าเป็นคนไทยก็ต้องช่วยกัน แล้วทำให้ดี ผิดถูกเป็นเรื่องของกฎหมาย ก็ว่ากันไป ถ้าไม่มีอะไรก็ช่วยกัน ถ้าไม่ช่วยวันนี้แล้วจะช่วยวันไหน สงสารประชาชนเขาไหม เราแพ้ชนะกัน แต่คนเดือดร้อนคือชาวบ้าน ข้าราชการเดือดร้อนหมด มันไม่ได้ วันนี้ไม่ได้ว่าคุณต้องมาเข้าข้างผมหรือเข้าข้างใคร แต่ต้องทำให้ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราทำเพื่อประชาชนจริงๆ โอเคไหม" โดยนายจำรูญศักดิ์ได้ตอบกลับนายกฯว่า "พร้อมที่จะร่วมพัฒนาร่วมกัน" จากนั้น นายกฯได้หยอกล้อนายจำรูญศักดิ์อย่างอารมณ์ดี พร้อมตบไหล่และโอบกอด และระบุว่า "ไม่กลัวเขาว่าอะไรหรือ" ขณะที่นายจำรูญศักดิ์ตอบกลับว่า "ไม่กลัว เราทำเพื่อชาติ"



นายจำรูญศักดิ์กล่าวภายหลังด้วยว่า ที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งไม่ได้ช่วยให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น หากมีการเลือกตั้งในเวลานี้ที่ความขัดแย้งยังมีอยู่ ประเทศจะไม่สามารถเดินหน้าได้ ที่ผ่านมา พยายามพูดคุยกับแกนนำ นปช.ในหลายจังหวัดว่าให้มาช่วยกัน เพราะหากยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อให้อีกยี่สิบปีข้างหน้าปัญหาก็จะไม่จบ



+++ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สรุปมีแนวทางเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า ปัญหาที่ฟังมา ทาง กรธ.ต้องการแก้ปัญหาที่มีการอ้างถึงมาตรา 7 ก็ไปดูตรงนั้น ก็ต้องมีกติกาชัดเจน มาจากใคร ที่ไหน อย่างไร ความเห็นชอบโดยใคร อย่างการเลือก ส.ส.ก็เสนอมาว่าน่าจะมีการเลือกนายกฯด้วย ซึ่งทำได้หรือเปล่าไม่รู้ อย่ามากังวลเรื่องนี้



+++ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. แถลงว่า  ประเด็นที่มานายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะประเด็นที่ให้พรรคการเมืองจัดทำรายชื่อผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 5 คนนั้น ที่ประชุม กรธ.ได้มอบหมายให้อนุกรรมการฯไปศึกษาข้อดี ข้อเสียอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุม กรธ.อีกครั้งในภายหลัง



++++นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า เท่าที่ดูรายละเอียด วิธีนี้ใกล้เคียง ไม่เห็นความแตกต่างจากวิธีเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงมากนัก แบบนี้เรียกว่าให้ประชาชนเป็นผู้รับรองตั้งแต่ก่อนหาเสียง บางประเทศก็มีใช้กัน ส่วนตัวพอรับได้กับแนวคิดนี้ ดีกว่าชงใครก็ไม่รู้มาให้เสียงข้างมากของสภาเลือกเป็นนายกฯ แต่ กรธ.ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ดี เพราะกรณีการกาบัตรเพียง 1 ครั้ง ได้เลือกทั้ง นายกฯ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต ประชาชนอาจเข้าใจยาก ทั้งนี้ ประหลาดใจว่าเหตุใด กรธ.ถึงเปิดช่องว่านายกฯไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ได้ไว้ทำไม เพราะเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนายกฯคนนอกมาโดยตลอด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ต้องตอบคำถามด้วย เพราะต่อให้เป็น ส.ส.หรือไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ไม่เห็นแตกต่าง พรรคการเมืองจะต้องเผยแคนดิเดตนายกฯให้ประชาชนทราบก่อนการเลือกตั้งอยู่ดี



++++วันนี้ นายกรัฐมนตรี จะร่วมประชุม เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการทั่วโลก 95 ประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้หัวข้อการทูตเชิงรุกเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยจะมีการมอบนโยบายแก่คณะเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยได้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างมีทิศทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินหน้าตามโรดแม็พและการปฏิรูปให้คณะเอกอัครราชทูตไทยไปชี้แจงกับต่างประเทศถึงความมั่นใจของนายกฯและรัฐบาลไทยในการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดระบอบประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน หลังมีการเลือกตั้งในปี 2560 นอกจากนี้ประธานสภาการขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศ(สปท.) จะมาบรรยายแนวทางการปฎิรูปประเทศด้วย เพื่อให้เอกอัครราชทูตไทยนำไปชี้แจงให้กับต่างประเทศที่ให้ความสนใจต่อการเดินหน้าปฎิรูปของไทย



ในช่วงบ่ายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำทีมรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเปิดตลาดใหม่ เพื่อเสริมสร้างการแข่งขันในมิติเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลไทยมุ่งส่งเสริมในส่วนต่างๆที่มีประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาจุดแข็งของประเทศให้กับต่างประเทศ



++++นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ครั้งที่ 23 ในวันที่ 17-19 พ.ย.นี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์  โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวปาฐกถาหัวข้อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรม เพื่อเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม พร้อมกับนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การปฎิบัติ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 27 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.นี้ สำหรับในปีนี้เป็นมิติสำคัญของอาเซียนที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ โดยผู้นำชาติสมาชิกจะร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ของอาเซียนในอีก 10 ปีข้างหน้า รวมถึงบทบาทและการปฎิสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน กับประเทศคู่เจรจาต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ



++++ส่วนคดีทุจริตจำนำข้าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตรวจหลักฐานในคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 21 ราย โจทก์ตกลงนำพยานเข้าสืบ 29 ปาก ขณะที่จำเลยขอนำพยานเข้าสืบ 92 ปาก โดยมีพยานร่วมกัน 19 ปาก



+++นายบุญทรงกล่าวว่า ในฐานะจำเลยมีความกังวลอยู่บ้าง แต่มั่นใจว่าในขณะที่ดำรงตำแหน่งได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนระเบียบวิธีการปฏิบัติอย่างครบถ้วน ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ศาลได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานครั้งแรก วันที่ 2 มีนาคม 2559



++++ นาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่ประธานการประชุม สนช. เพื่อพิจารณากระบวนการถอดถอนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดตามข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ จากกรณีสร้างบ้านมูลค่า 16 ล้านบาท ที่ จ.อ่างทอง



นายสมศักดิ์แถลงว่า ยอมรับในคดีปกปิดบัญชีทรัพย์ไปแล้วว่าเป็นการสำคัญผิด ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้วินิจฉัยเสร็จสิ้นและได้รับโทษไปทั้งหมดแล้ว แต่ ป.ป.ช.ได้นำผลของคดีดังกล่าวมาชี้มูลถอดถอนในกรณีร่ำรวยผิดปกติอีก และยังพูดจากำกวมให้สังคมและ สนช.เข้าใจผิดว่าญัตติถอดถอนดังกล่าวเป็นกระบวนการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ส่วนการลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนในวันนี้ เวลา 10.00 น. ต่อไป



+++อาการปอ-ทฤษฎี ยังทรงตัว ทีมแพทย์ที่รักษาออกแถลงการณ์ ยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่องในห้อง CCU แม้จะมีสัญญาณว่าปออาการดีขึ้น โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4 ชี้แจงอาการป่วยของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ว่า อาการโดยทั่วไปคงที่จากตอนเช้า เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดน้อยลง ปริมาณเกล็ดเลือดคงที่ ต้องได้รับเลือดและส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะ สัญญาณชีพโดยทั่วไปคงที่ การทำงานของตับดีขึ้นต่อเนื่อง ภาวะไตวายคงที่ ยังต้องใช้เครื่องฟอกไต และเครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (Extracorporeal Membrane Oxygenator:ECMO) ค่าออกซิเจนในเลือด เกลือแร่ และความเป็นกรดในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ การทำงานของสมองอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยสรุปยังต้องได้รับการเฝ้าระวังใน CCU อย่างต่อเนื่อง



+++พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. รรท.ผบก.ปคม.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์) แถลงจับกุม นายดุสิต เลิศพงศ์ไพศาล ชาว จ.สงขลา จำเลยหลบหนีไประหว่างถูกคุมขังตามอำนาจศาล (แหกเรือนจำ) ได้บริเวณถนนบางขุนเทียนชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน  นายดุสิตกล่าวว่า ถูกจำคุกเป็นเวลา 11 ปี ก่อนจะหลบหนีขณะบำเพ็ญประโยชน์ ได้รับการช่วยเหลือจากหญิงไม่ทราบชื่อ พาไปทำบัตรประชาชนใหม่ ที่ อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 ใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการทำบัตร เสียค่าใช้จ่าย 100,000 บาท ขั้นตอนในการทำบัตรเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐ และมีเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมทั้งยายของนายสุรพงษ์เซ็นยืนยันการ ทำบัตร หลังหลบหนีอ้างว่าเปิดร้านอะไหล่แต่งรถยนต์ ส่วนรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ที่ใช้อยู่ซื้อผ่านเฟซบุ๊ก ที่มีปล่อยขายรถหลุดจำนำ



+++สำหรับ นายดุสิตมีประวัติกระทำผิด 2 คดี ได้แก่ คดีฉ้อโกงประชาชน และคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะต้องการชิงทรัพย์เงินสด 800,000 บาท เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง 3 ศพ โดยทั้ง 2 คดี ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จำเลยยอมรับคำตัดสินจึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ กระทั่งวันที่ 19 มิถุนายน 2557 หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดระยอง ขณะออกไปบำเพ็ญประโยชน์  นายดุสิตสวมบัตรประชาชนชื่อ นายสุรพงษ์ เขื่อนปัญญา อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย โดยนายสุรพงษ์ตัวจริงเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุ 3 ปี การปลอมแปลงบัตรประชาชนเพื่อความสะดวกต่อการหลบหนี รวมทั้งมีการทำธุรกรรม  โดยใช้ชื่อนายสุรพงษ์เปิดบัญชี 2 เล่ม ที่ จ.หนองคายและกรุงเทพฯ เงินหมุนเวียน 9 ล้านบาท จ้าหน้าที่จะติดตามขยายผลถึงบุคคลที่ร่วมขบวนการ พร้อมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีดังกล่าว



+++เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ม.พัน1.รอ.จำนวน 12 นาย นำโดย ร.ท.สมหวัง มั่นศรีจันทร์ หัวหน้าชุด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามสน.ทองหล่อ ร่วมกันสกัดกลุ่มวัยรุ่นสวมชุดวิน จยย. รวมตัวกันปิดถนนเพื่อแข่งรถยนต์ ที่บริเวณถ.รัชดาภิเษกช่วงขาเข้าก่อนถึงแยกคลองเตย โดยสามารถจับกุมคนขับได้ 2 คน ได้แก่ 1.นายอัมรินทร์ รสชปรากฏ อายุ 25 ปี พร้อมรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า 3 สีแดง ทะเบียน 9340 กทม. และนายธีรพงษ์ เมืองน้อย อายุ 28 ปี พร้อมรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน 9304 กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมคนขับทั้งคู่มาสอบสวนก่อนแจ้งข้อหา แข่งรถในทางสาธารณะ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังควบคุมกลุ่มวัยรุ่นอีก 12 คนเพื่อสอบสวนเนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดก่อเหตุปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาขน 

ข่าวทั้งหมด

X