*ตม.กวาดจับอาชญากรข้ามชาติหลบหนีเข้ามาในไทย*

การแถลงผลจับกุมอาชญากรต่างชาติที่มากบดานในประเทศไทย ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ พล.ต.อ. วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงว่า ผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับกุมได้ คือ นายเยฟกินี ชาลามอฟ ชาวรัสเซีย หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติด ที่ทางการประเทศรัสเซีย ทำการขยายผล หลังจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศรัสเซีย พร้อมของกลางสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดประมาณ 43 กิโลกรัม ซึ่งพบว่านายเยฟกินีเป็นหัวหน้า ขบวนการนี้ ก่อนจะหลบหนีมาอาศัยอยู่ภายในคอนโดมิเนียม ย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี

ขณะที่นายเอลด้า กาซานกูซีนอฟ ชาวรัสเซีย ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงและเรียกค่าคุ้มครองชาวรัสเซีย มูลค่าความเสียหายกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ตามหมายจับประเทศรัสเชีย และหมายจับแดงของตำรวจสากล ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตสามารถจับกุมตัวนายเอลด้าได้ที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ส่วนนายชอน นิโคล โทบิน ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดทางการสหรัฐฯ ต้องการตัว หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งผิดข้อหาเป็นบุคคลต่าวด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบประวัติทราบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับคดียาเสพติดของทางการสหรัฐฯ

นายรูสลัน ซิบิเลฟ ชาวรัสเซีย ผู้ต้องหาคดีกระทำการคุกคามและกระทำความรุนแรงต่อเหยื่อ ที่เป็นลูกหนี้ โดยใช้กำลังทำร้ายลูกหนี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถูกทางการรัสเซีย ออกหมายจับจึงได้หลบหนีเข้ามาอาศัยที่เมืองพัทยา ตั้งแต่ปี 2556

และนายหลิน เหลียง ฉี ชาวไต้หวัน ที่ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่นายหลิน หลอกขายทัวร์ตีกอล์ฟที่ประเทศลาว ให้กับชาวไต้หวัน ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก และสูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญา ซึ่งนายหลินได้หลบหนีมาอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ

พล.ต.อ. วุฒิ กล่าวว่า การเดินหน้าปราบปรามและจับกุมอาชญากรต่างชาติที่หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย ตำรวจจะเร่งรัดเดินหน้ากวาดล้างอาชญากรเหล่านี้ให้ทันก่อนที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติรายอื่นๆ ที่กระทำความผิดแล้วหลบหนีมายังประเทศไทย รวมทั้งหมด 12 คน  โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศ เพื่อกลับไปดำเนินคดียังประเทศต้นทาง

ผู้สื่อข่าว: สมจิตร์ พูลสุข