ศาลแพ่ง นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีริบทรัพย์ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ , นางนฤมล หรือเพ็ญพิมล ทรัพย์ล้อม ภรรยา , น.ส.สุทธิวรรณ ทรัพย์ล้อม บุตรสาว , น.ส.สุทธาวรรณ ทรัพย์ล้อม หรือปราบใหญ่ บุตรสาว , นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ บุตรเขย และผู้ใกล้ชิดรวม 7 ราย ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบทรัพย์สินแล้วหลังจากเกิดที่เหตุคนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ ในซอยลาดพร้าว 64 เมื่อค่ำวันที่ 12 พ.ย.2554 ซึ่งผู้ต้องหาที่ร่วมทำผิดคดีอาญานั้น ได้ให้การเกี่ยวกับทรัพย์สินว่าพบเงินสดในบ้านนายสุพจน์ นับร้อยล้าน ซึ่งนายสุพจน์ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินต่างๆได้ จึงชี้มูลความผิดว่า นายสุพจน์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้รถยนต์ยี่ห้อ VOLK SWAGEN มูลค่า 3 ล้านบาท รวมกับทรัพย์สินอื่นตามคำสั่งศาลชั้นต้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 64,998,587.52 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ด้านนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของนายสุพจน์ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้มีการพิจารณาเพิ่มทรัพย์สิน ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งขณะนี้ได้ขอคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม เพื่อตรวจดูรายละเอียดที่จะพิจารณาประเด็นยื่นฎีกาต่อสู้ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สำหรับคดีอาญาปล้นบ้านนายสุพจน์ หมายเลขดำ อ.347/2555 นั้น ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2556 ให้จำคุก 12 ปีและปรับ 60 บาท นายสิงห์ทอง หรือเสธ.ไก่ ใจชมชื่น จำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธและยานพาหนะ
ส่วนนายเสาร์แก้ว นามวงค์ กับ นายสมบูรณ์หรือบูรณ์ ริยะเทน จำเลยที่ 2-3 จำคุก 9 ปีและปรับ 45 บาท นายบุญสืบ หรือสืบ โจมกัน และนายวณัญกฤต หรือจ่อย บุตรกันหา จำเลยที่ 4 และ 6 ให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันรับของโจร ส่วนนายวุฒิชัย หรือวุฒิ พันธวารี และ น.ส.วาสนา สาเพิ่มทรัพย์ จำเลยที่ 5 และ 9 ให้จำคุก 3 ปี 4 เดือน และ นายชยธัช หรือเอก จันนะชัย จำเลยที่ 8 ให้จำคุก 8 ปีฐานสนับสนุนการปล้นทรัพย์ ส่วนนายประพันธ์ เรียงเครือ จำเลยที่ 7 พิพากษายกฟ้อง โดยคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วเป็นคดีหมายเลขแดง อ.1119/2556
แฟ้มภาพ