อิสราเอลไม่พอใจอียูเพิ่มมาตรการควบคุมสินค้าจากนิคมชาวยิว

อิสราเอลประณามสหภาพยุโรป หรือ อียู ว่าเลือกปฏิบัติ และใช้มาตรการที่รุนแรงเกินไป เมื่ออียูเตรียมออกประกาศในสัปดาห์นี้ ตามที่สภายุโรปมีมติท่วมท้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558 ให้ติดสลากสินค้าที่ผลิตในพื้นที่ชุมชนชาวยิวในปาเลสไตน์ แต่ให้ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่ผลิตในดินแดนของอิสราเอล เพื่อแสดงท่าทีว่า ยุโรปไม่เห็นด้วยที่อิสราเอลรุกล้ำตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ และกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่ามาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการทางเทคนิค ที่ปิดบังเป้าหมายที่แท้จริงคือประเด็นทางการเมือง

นายซารี บาชี ผู้อำนวยการสำนักงานสิทธิมนุษยชนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เปิดเผยว่ามีประมาณ 1,000 บริษัทที่ดำเนินงานในเขตอุตสาหกรรมที่มีอยู่ 16-20 แห่งในเขตนิคมชาวยิว  โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาอิสราเอลปิดบังข้อมูลในเรื่องนี้ รวมถึงมูลค่าการค้า ส่วนธนาคารโลก คาดการณ์ว่า เมื่อปี 2551 มูลค่าสินค้าจากนิคมชาวยิวที่นำเข้ามาในยุโรปจะมีมูลค่า 5 พัน 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก พื้นที่บางส่วนของฉนวนกาซาและที่ราบสูงโกลันในช่วงปี 2510 ในสงครามตะวันออกกลาง หลังจากนั้นก็ยึดครองที่ราบสูงโกลันและเยรูซาเล็มตะวันออกไว้ แม้ประชาคมระหว่างประเทศจะคัดค้าน โดยเมื่อปี 2548 อิสราเอลถอนกองทัพออกมาจากฉนวนกาซ่า แต่ก็ยังคงควบคุมพื้นที่นี้อย่างเข้มงวด

..F163..