ทันสถานการณ์ฯ:ซูจีระบุแม้เลือกตั้งไม่โปร่งใสแต่มีเสรีภาพ/ทหารซีเรียยึดคืนเมืองทางตะวันตก/อดีตนายกฯเยอรมันถึงแก่อนิจกรรม*

11 พฤศจิกายน 2558, 07:50น.


+++บีบีซี สัมภาษณ์นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เชื่อมั่นพรรคเอ็นแอลดีคว้าชัยการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยของประเทศในรอบ 25 ปีครั้งนี้แน่นอน แม้จะมีความไม่โปร่งใสอยู่บ้างแต่โดยรวมก็ยังมีเสรีภาพให้ประชาชน เช่นเดียวกับทีมผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งจากสหภาพยุโรป (อียู)แถลงว่า การเลือกตั้งเป็นไปด้วยดีและโปร่งใส     


+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เมียนมา ไทม์ส รายงาน พรรคเอ็นแอลดีประกาศชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการว่า พรรคได้จำนวนที่นั่งทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามาแล้วร้อยละ 82 โดยได้รับ 271 จาก 330 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร และได้อีก 135 จาก 168 ที่นั่งในวุฒิสภา 


+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อังกฤษ “เดอะ การ์เดียน”ระบุ แม้พรรคเอ็นแอลดี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก จะได้รับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย แต่ก็ไม่แน่ว่า รัฐบาลพลเรือนของเธอจะสามารถปกครองเมียนมาได้หรือไม่ เพราะทหารยังคงเป็นกุมอำนาจทางการเมืองอยู่ในหลายส่วน   โดยเฉพาะนายพลตาน ฉ่วย อดีตผู้นำเผด็จการของเมียนมาจะลงจากอำนาจไปนานแล้ว แต่เขายังคงอยู่เบื้องหลังการเมืองของประเทศและทหารก็ยังคงมีที่นั่งในรัฐสภาร้อยละ 25 อย่างอัตโนมัติตามรัฐธรรมนูญ และทหารก็ยังกุมอำนาจในกระทรวงหลักของประเทศ เช่น กลาโหม มหาดไทย กระทรวงการพัฒนาพื้นที่ชายแดน รวมไปถึงหน่วยงานตำรวจอีกด้วย


+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอเลปโปประเทศซีเรีย รายงานว่า กลุ่มของทหารกองทัพซีเรียสามารถฝ่าแนวป้องกันด้านทิศตะวันตกของสนามบินเวย์ริสในเมืองอเลปโป ทางเหนือของซีเรียซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองมานานกว่า1ปีของกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (ไอเอส )และเข้าไปพบกับทหารกองทัพซีเรียที่อยู่ในฐานทัพอากาศได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการฉลอง สถานีโทรทัศน์ของซีเรียรายงานว่าได้แพร่ภาพออกอากาศสดเหตุการณ์บุกเข้าไปชิงพื้นที่ของฐานทัพอากาศกลับคืนมาได้สำเร็จ ถือเป็นชัยชนะและพวกก่อการร้ายไอเอสจำนวนมากถูกฆ่าตาย


+++ทั้งนี้สนามบินเรย์วิสตกอยู่ในวงล้อมของกลุ่มไอเอสมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี2557แต่รายล้อมไปด้วยกองกำลังฝ่ายกบฏส่วนกลุ่มไอเอสก็ยังมีคงมีอยู่แต่เป็นพื้นที่อื่นโดยรอบสนามบิน สถานีโทรทัศน์ของซีเรียรายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิต22ศพและบาดเจ็บอีก62คนจากการโจมตีด้วยกระสุนปืนครกถล่มพื้นที่อยู่อาศัยของเมืองชายฝั่งลาตาเกีย ของซีเรีย


+++นายเฮลมุต ชมิดท์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี ถึงแก่อสัญกรรมแล้วที่บ้านพักในเมืองฮัมบูร์กเมื่อช่วงบ่ายของวันอังคาร ขณะมีอายุได้96ปี นายเฮลมุต ชมิดท์ นักการเมืองแนวคิดกลาง-ซ้ายจากพรรคสังคมประชาธิปไตยก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมันตะวันตกช่วงปี 2517-2525และสูญเสียตำแหน่งให้กับนายเฮลมุทโคห์ล นักการเมืองแนวอนุรักษ์นิยมจากพรรคคริสเตียนเดโมแครต แต่ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดในช่วงสงครามเย็นเช่น สหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถานในปี2522และความวุ่นวายทางเศรษฐกิจแต่เขาก็แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อกระแสก่อการร้ายในประเทศ นายเฮลมุตชมิดท์ มีปัญหาด้านสุขภาพต้องติดเครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจและ ยังมีอาการของต่อมไทรอยด์เมื่อเดือนส.ค.2545เขาเข้ารับการผ่าตัดบายพาสหลังมีอาการหัวใจวายจากนั้นในอีก 2ปีต่อมาเขาก็ต้องเข้าผ่าตัดต้อกระจก เขาลาออกจากส.ส.ในปี2530และทำงานเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาร่วมให้กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ได-ไซท์


+++ไปที่ประเทศมัลดีฟส์ หลังจากประธานาธิบดีอับดุลลายามีน แห่งมัลดีฟส์ ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันพุธ เป็นเวลา 30วัน อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงเนื่องจาก เหตุโจมตีด้วยระเบิดบนเรือยนต์ของประธานาธิบดีแห่งมัลดีฟส์เมื่อวันที่ 28ก.ย.ทำให้ภรรยาของเขา ผู้ช่วยและองครักษ์ได้รับบาดเจ็บรวมถึงการพบอาวุธร้ายแรงและ ระเบิดแสวงเครื่องใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี การประกาศภาวะฉุกเฉินก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติว่าละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและยังให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในการตรวจค้นและจับกุมบุคคลตามที่ต้องการ ตามประกาศภาวะฉุกเฉินตำรวจสามารถสามารถเข้าตรวจค้นบ้านโดยไม่ต้องมีหมายและสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบและการเดินทางไปยังเกาะต่างๆทั่วมัลดีฟส์ถูกระงับไว้ก่อนชั่วคราวด้วย ต่อมาสมาชิกรัฐสภาได้ลงมติถอดถอนรองประธานาธิบดีอาเหม็ดอาดีบ ออกจากตำแหน่งตามประกาศภาวะฉุกเฉินและสงสัยว่าเขาอยู่เบื้องหลังความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดียามีนจึงได้ควบคุมตัวไว้ 


+++นายโมฮัมเหม็ด อานิล อัยการสูงสุด แถลงว่า ประธานาธิบดียามีน ตัดสินใจยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วเพราะการสอบสวนในคดีระเบิดเรือยนต์และพบอาวุธร้ายแรงคืบหน้าไปอย่างมาก นอกจากนั้น ประธานาธิบดียามีน ยังยอมรับกระแสเรียกร้องนานาชาติให้ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อที่จะลดผลกระทบใดๆก็ตามที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยว มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในเขตมหาสมุทรอินเดียถือเป็นดินแดนสวยงามสำหรับนักท่องเที่ยวสถานตากอากาศหรูหรามากมายแต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลจากการประกาศภาวะฉุกเฉินส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากน้อยเพียงใด


+++นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า สาเหตุของเครื่องบินรัสเซียตกเกิดจากระเบิดที่ถูกซุกซ่อนโดยบางคนที่ได้แรงบันดาลใจหรือทำงานให้กับกลุ่มไอเอส เนื่องจากความบกพร่องด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินชาร์ม เอล-ชีค อาจเป็นการเปิดทางให้พวกก่อการร้ายประสบความสำเร็จในการระเบิดเครื่องบินโดยสารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุโจมตีเครื่องบินของสายการบินแพนแอม เหนือน่านฟ้าเมืองล็อคเคอร์บี สกอตแลนด์ เมื่อปี 1988 อังกฤษ สั่งคณะทำงานด้านความมั่นคงไปยังสนามบินดังกล่าวในทันที ตามหลังเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินแห่งหนึ่งของรัสเซียตกในแถบคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 224 ชีวิต


+++อังกฤษ เริ่มต้นลำเลียงนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนเดินทางกลับเมืองตากอากาศของอียิปต์ แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาล่าช้าเนื่องจากกระบวนการคัดกรองสัมภาระของพวกเขา ทั้งนี้ด้วยความกังวลว่าพวกก่อการร้ายอาจมีแผนลงมือโจมตีอีก อังกฤษจึงใช้มาตรการแยกตรวจค้นสัมภาระและใช้เที่ยวบินสินค้าขนส่งมันกลับ        


+++ ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 44.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ) ออกรายงานประมาณการณ์ประจำปีในวันอังคาร คาดหมายว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจากอุปทานล้นตลาดและอุปสงค์ที่ลดลงในเหล่าชาติพัฒนาแล้ว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อย จากถ้อยคำบางส่วนในรายงานของไออีเอ ที่ประมาณการณ์ว่าการลงทุนในภาคน้ำมันจะลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์เช่นนี้จะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2016


+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดในกรอบแคบๆ จากแรงฉุดของหุ้นแอปเปิล แต่ดาวโจนส์พื้นตัวปิดบวกเล็กน้อยในช่วงท้ายของการซื้อขาย ท่ามกลางความคาดหมายว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 27.73 จุด  ปิดที่ 17.758.21 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.14 จุด  ปิดที่ 2,081.72 จุด แนสแดค ลดลง 12.06 จุด  ปิดที่ 5,083.24 จุด  ส่วนราคาทองคำ ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากทรุดลงต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 40 เซ็นต์ ปิดที่ 1,088.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวทั้งหมด

X