เดอะ โกลบอล ไทม์ส" หนึ่งในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในสังกัดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตีพิมพ์บทบรรณาธิการฉบับวันอังคาร ว่า หลังรัฐบาลกึ่งพลเรือนของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง พยายามเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับตะวันตก และผลักดันให้เมียนมามีการเลือกตั้งที่เปิดกว้าง ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับจีนมีอันต้องลดจาก "พิเศษ" สู่ระดับ "ปกติ" ด้วยเหตุนี้ แฃะการที่รัฐบาลเมียนมาในอนาคตมีแนวโน้มยกระดับความสัมพันธ์กับตะวันตกมากขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐ อาจกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ "ขาดไหวพริบ" ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ และผลประโยชน์ที่เมียนมาจะได้รับในอนาคตจากนโยบายต่างประเทศฉันมิตรของรัฐบาลปักกิ่ง
จีนนับเป็นพันธมิตรสำคัญของเมียนมาซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร แม้เมื่อต้นปี จะมีความขัดแย้งกันเมื่อช่วงต้นปีนี้ จากกรณีกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศตามแนวตะเข็บชายแดนเพื่อขับไล่กลุ่มกบฏโกก้าง แต่บางส่วนลักลอบข้ามพรมแดนไปยังจีน ซึ่งผลจากการทิ้งระเบิดโจมตีทำให้ชาวจีนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ
ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาเดินหน้าประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ออกมาเป็นระยะ ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ( เอ็นแอลดี ) ของนางออง ซาน ซูจี ได้ที่นั่งในสภาล่างอย่างน้อย 49 ที่นั่ง จากที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว 54 ที่นั่ง หลายฝ่ายจับตาทิศทางการเมืองนับจากนี้มากกว่า ว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของพรรคเอ็นแอลดีจะสามารถทำงานได้อย่าง "อิสระ" เพียงใด เนื่องจากร้อยละ 25 ของที่นั่งทั้งในสภาสูงและสภาล่างสงวนไว้สำหรับทหาร และการลงมติจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75