การแก้ปัญหาโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ ทั้งเรื่องโครงสร้างการทำงาน รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กำชับให้ 7 รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาดำเนินการตามแผนฟื้นฟูให้เป็นรูปธรรม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง แก้ปัญหาหนี้สินและต้องดำเนินแผนฟื้นฟูให้เห็นผลภายในเดือนมีนาคม 2559 ประกอบด้วย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ให้หาพันธมิตรมาร่วมลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งในการบริหารจัดการองค์กรให้สามารถแข่งขันให้ได้ โดยให้กระทรวงการคลังถือหุ้นต่อไป และโอนหนี้ด้อยคุณภาพไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ ที่ตั้งโดยกระทรวงการคลัง และให้รายงานความคืบหน้ากลับมาให้ คนร.รับทราบภายใน 2 เดือน
ขณะที่ปัญหาบริษัทการบินไทย ที่ประชุม คนร.มีมติให้เพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายรวม 3,000 ล้านบาท และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยพิจารณาสัดส่วนพนักงานให้เหมาะสมกับภารกิจ และสื่อสารให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจ โดยให้เสนอแผนฟื้นฟู และดำเนินการภายในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะต้องเห็นผลภายในเดือนมีนาคม 2559
การบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย คนร.ให้นำที่ดินที่ไม่ได้ใช้เดินรถ มาพัฒนาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เช่น จัดทำตลาดเพื่อหารายได้ และให้เอกชนร่วมลงทุนในรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต ) และ แอร์พอร์ตลิงค์ แทนให้การรถไฟเป็นผู้ดำเนินการเอง
นอกจากนี้ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก. ทบทวนการจัดซื้อรถเมล์ เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่น้ำมันราคาถูกและจะมีรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
ส่วนธนาคารพัฒนารัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย คนร.รับทราบการดำเนินงานในการแก้ไขหลายเรื่อง ซึ่ง คนร.ก็เป็นไปถามแผนฟื้นฟู และขอให้ดำเนินการแผนฟื้นฟูให้ทันกำหนดต่อไป
ขณะที่ปัญหาของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท. โทรคมนาคม ก็ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าไปติดตามแก้ปัญหาข้อพิพาทต่างๆให้สอดคล้องกับนโยบายดิจิตอล อีโคโนมี
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด