*ตร.เพิ่มข้อหาลักทรัพย์ผตห.ฆ่าหญิงเมียนมา ฝากขังศาลพรุ่งนี้*

ความคืบหน้าการควบคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพหญิงสาวชาวเมียนมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุมตัวนายใจ เคนวันคำ อายุ  39 ปี สัญชาติลาว ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ จำนวน 3  จุด  จุดแรกคือ ห้องพัก บี107 ของหอพักในซอยรามคำแหง 53 เป็นจุดที่ทำการฆ่าและชำแหละชิ้นส่วน นางสาวมะลิ ไทยใหญ่ จุดที่สอง คือใต้สะพาน ที่ห่างจากหอพักประมาณ 500 เมตร เป็นจุดที่นำชิ้นส่วนไปทิ้ง และจุดที่สาม คือร้านทอง บริเวณ ลาดพร้าว 119  เป็นจุดที่นำทรัพย์สินผู้ตายมาจำนำ  รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มั่นใจพยานและหลักฐาน สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและทำการอำพรางซ่อนเร้นทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และเพิ่มข้อหาการลักทรัพย์ อีก 1 ข้อหา หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่สน.คลองตัน ก่อนที่จะฝากขังศาลจังหวัดพระโขนงพรุ่งนี้ก่อนเวลา 12.00 น.

จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่หอพักดังกล่าว ผู้ต้องหาตั้งใจว่าจะขอผู้เสียชีวิตแต่งงาน แต่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธ และรู้ภายหลังว่าผู้เสียชีวิตมีแฟนที่คบอยู่ก่อนหน้าตัวเอง เป็นชายชาวไทย คือนายวิทยา พลเยี่ยม อายุ 30 ปี ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ ยังสืบทราบว่า ผู้เสียชีวิตเคยมีสามีและลูก แต่เลิกรากันไปแล้วเมื่อปี 2552 จึงเกิดความหึงหวงและโมโห จึงได้เกิดบันดาลโทสะ ใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุต แทงที่คอด้านซ้ายและปาดจนหลอดลมขาด ทำให้เสียชีวิตทันที จากนั้นก็ได้แร่ชำแหละชิ้นส่วน เป็น 7 ชิ้น คือ ส่วนหัว ลำตัวช่วงบน ช่วงล่าง และแขนขาอย่างละข้าง ซึ่งระหว่างนั้นได้ใช้สายยางชำระภายในห้องน้ำฉีดเลือด เพื่อทำลายหลักฐาน จากนั้นก็นำเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตมาทิ้งด้านล่างหอพักและหยิบกระสอบปุ๋ย ไปบรรจุชิ้นส่วนและนำลงมาทิ้งบริเวณสะพานใกล้กับหอพัก

ตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหามีสีหน้าที่เรียบเฉย สลับกับยิ้มแย้ม ในบางครั้ง โดยไม่มีท่าทีกังวลใจ   พลตำรวจโทศานิตย์  เปิดเผยว่าผู้ต้องหาได้สารภาพว่าเริ่มลงมือในเวลา 15.00 น.และนำศพมาทิ้งในช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน    นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้เข้ามาทำงานเป็นพ่อครัวในร้านอาหารกว่า 10 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเป็นคนชำแหละสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ที่ประเทศลาว จึงมีความชำนาญในการหั่นชิ้นส่วน   

ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร