ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี ขอให้ทุกคนยอมรับผลการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาร์ แต่ยังไม่ประกาศชัยชนะ

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางอองซานซูจี ชนะพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา หรือยูเอสดีพี ของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ได้ในหลายพื้นที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงเขตเมืองเก่าในนครย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ที่อยู่ทางเหนือ โดยมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว 18 ที่นั่งกับวุฒิสภา 5 ที่นั่ง สภาท้องถิ่นหมายเลขหนึ่ง 16 ที่นั่ง และสภาท้องถิ่นหมายเลขสอง อีก 17 ที่นั่ง กับมีคะแนนนำในหลายพื้นที่ในรัฐมอญ รัฐกะฉิ่น และ รัฐชาน

แต่ที่เมืองเมะทีลา ในมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพอากาศ ปรากฏว่าพรรคเอ็นแอลดีพ่ายแพ้ไปทั้ง 4 สภา อย่างไรก็ตาม ยังมีหีบบัตรอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ถึงคณะอนุกรรมการเลือกตั้ง

ด้านสื่อมวลชนเมียนมาร์ รายงานว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ ดีกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2533 เพราะรัฐบาลยินยอมให้ติดตามการเลือกตั้ง และการนับคะแนนได้

โดยในวันนี้ นางอองซาน ซูจี กล่าวปราศรัยที่สำนักงานใหญ่ของพรรค เพื่อกล่าวขอบคุณผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรค ไม่ใช่การประกาศชัยชนะ และระบุด้วยว่าไม่ได้คาดหวังผลการเลือกตั้ง แต่จากคะแนนที่ออกมาทำให้รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก และขอให้ประชาชนรอผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการที่บ้านของตัวเอง ซึ่งหากพ่ายแพ้ก็ขอให้ยอมรับ หรือหากชนะก็ไม่แสดงท่าทีเยาะเย้ยผู้ที่พ่ายแพ้ นางกล่าวว่า คนแพ้ควรแพ้อย่างกล้าหาญ และคนชนะควรชนะอย่างนอบน้อม ถือเป็นชัยชนะของคนทั้งประเทศ

ก่อนหน้านี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาร์ เปิดเผยว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2533 ซึ่งพรรคเอ็นแอลดีเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่กองทัพไม่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม หากพรรคเอ็นแอลดีชนะเลือกตั้งครั้งนี้อีก ก็ไม่มีเหตุผลที่กองทัพจะไม่ยอมรับ และคาดว่าการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

*-*