ประเด็นระบบจัดการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำเสนอขึ้นมานั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรูปแบบการจัดการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอแต่กลุ่มนักการเมืองคัดค้าน โดยเห็นว่า ยินดีรับฟังทุกความเห็นอยู่แล้ว ถือเป็นบรรยากาศที่ดี ซึ่งนอกจากนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังย้ำว่า ไม่ได้ห้ามการแสดงความเห็นคัดค้าน แต่เตือนเรื่องการใช้สำนวนการแสดงความเห็น ซึ่งนายวิษณุกล่าวด้วยว่า จากการอ่านเนื้อหาในหนังสือพิมพ์พบว่านักการเมืองบางคนค้านได้ดี เช่น นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ประเภทด่าทอนั้นเข้าใจว่าเป็นจิตวิทยาในการโจมตี
ทั้งนี้มีความเห็นด้วยที่จะมีการตัดสิทธินักการเมืองที่ทุจริตเลือกตั้งเป็นรายบุคคล แต่ขณะนี้ก็ยังเป็นเพียงการเสนอความเห็น
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ จะมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่ประธาน กรธ. ทำหนังสือมาถึงประธาน สปท. เพื่อขอความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากการอภิปรายแล้วก็จะมีการสรุปความเห็นเพื่อนำเสนอในนาม สปท.อย่างเป็นทางการ โดยการอภิปรายจะเริ่มจากด้านเศรษฐกิจและพลังงาน
ส่วนความคืบหน้าการแต่งตั้งประธานกรรมาธิการ (กมธ.) และกมธ.สามัญประจำสภา 11 คณะนั้น คณะกรรมการพิจารณาและกลั่นกรองการดำรงตำแหน่งประธาน กมธ.และ กมธ. ที่มีนางวลัยลักษณ์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท. เป็นประธาน พิจารณาเสร็จพร้อมจัดทำรายงานเสนอประธาน สปท.แล้ว เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม สปท.ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ส่วนการประชุม กมธ. 11 คณะนัดแรกจะเริ่มวันที่ 11 พฤศจิกายน จากนั้นวันที่ 16 พฤศจิกายนจะตั้ง กมธ.วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และคณะ กรรมการประสานงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยใช้เวลา 1 เดือนจัดทำแผนและข้อเสนอขับเคลื่อนการปฏิรูปต่อ สปท.รอบแรกภายในวันที่ 10 ธันวาคมนี้
ในวันนี้ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นข้อเสนอการร่างรัฐธรรมนูญ ในหมวดองค์กรอิสระต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. โดยมีสาระสำคัญ 4 ข้อ คือ การปฏิรูปองค์อิสระ แก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ยกเลิกการจัดอบรมหลักสูตรที่เอื้อประโยชน์ผู้เข้าร่วมอบรม และให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีอำนาจสอบสวน และสั่งหน่วยงานพิจารณาในลักษณะ ป.ป.ช.
ส่วนปัญหาภัยแล้ง นายทองเปลว กองจันทร์ ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ในฐานะ รอง ผอ.ส่วนอำนวยการของการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาวิกฤติภัยแล้งระดับชาติ ปี 58/59 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักมีปริมาณล่าสุด 4,240 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งจะมีน้ำกินใช้เพียงพอถึงเดือนกรกฎาคมปีหน้า และสำรองไว้อีก 1 พันล้านลบ.ม.ก่อนเข้าฤดูฝนปีหน้า แต่จะต้องใช้การบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มข้น โดยขอความร่วมมือไปยังสถานีสูบน้ำและการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 365 แห่งตลอดลุ่มน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ 22 จังหวัด เพื่อป้องกันการแย่งน้ำ
ทั้งนี้มีการสำรวจพื้นที่เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
ด้านการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งเมื่อบ่ายวันที่ 7 พฤศจิกายน พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วน ปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ และ พ.อ.คชาชาต บุญดี กับพวกเพิ่มอีก 2 คดีคือการแอบอ้างสถาบัน ในดำเนินการกิจกรรมสำคัญ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเดียวกันแต่ต่างกรรมต่างวาระ
โดยในการตรวจสอบความคืบหน้ากรณีการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น นอกจากพบความผิดปกติการก่อสร้างรูปปั้นทั้ง 7 พระองค์แล้ว ยังพบพฤติกรรมส่อในเจตนาทุจริตนำต้นปาล์มในราคาที่สูงเกินจริงมาปลูก รวมทั้งการจัดเลี้ยงวันเปิดอุทยานเมื่อวันที่ 12 กันยายนด้วย
ด้านพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยว่าไม่สั่งการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ กรณีที่มีรายงานว่า มีทหารเกี่ยวข้องกับการทุจริต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดียังไม่ได้ประสานขอข้อมูลมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พ.อ.คชาชาต เดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทาง ด่าน ตม.แม่สอดตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ต.ค. และไม่ได้กลับมาทำงานที่กองทัพภาคที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากคณะกรรมการชายแดนไทย อ.ผาซอง จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ให้ช่วยติดตามและนำตัวส่งกลับทางการไทย
*-*