น้ำมัน –ทอง ร่วง หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐฯดีขึ้น ดอลลาร์แข็งค่า คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยแน่

07 พฤศจิกายน 2558, 07:58น.


สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ลดลงต่อเนื่อง 3 วัน น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 91 เซนต์ ปิดที่ 44.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสหรัฐฯเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายในเดือนตุลาคม พบว่า เศรษฐกิจของประเทศสามารถสร้างงานใหม่ได้ถึง 271,000 อัตรา มากกว่าเดือนกันยายนถึงเกือบ 2 เท่า ส่วนอัตราคนว่างงานก็ลดลง  ข้อมูลดังกล่าวทำให้มีการคาดหมายมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นร้อยละ 1.2 ทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ 



ปัจจัยดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตามหลังข้อมูลการจ้างงานอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ยังฉุดให้ทองคำขยับลงแรงในวันศุกร์ นับเป็นการปิดลบ 7 วันติดและแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 16.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,087.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์



ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ หลังข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งในเดือนตุลาคม เพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.90 จุด ปิดที่ 17.910.33 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.73 จุด  ปิดที่ 2,099.20 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.38 จุด ปิดที่ 5,147.12 จุด



นักวิเคราะห์หลายคน คาดหมายว่าเฟดจะเคลื่อนไหวขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม หลังจากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน เผยให้เห็นว่ามีการจ้างงานใหม่เกินคาดหมายในเดือนตุลาคม และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนบางส่วนเทขายหุ้นออกมา



CR:แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X