+++การปราบปรามคดีอาชญากรรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ควบคุมตัวนักพนันชายหญิงรวม 78 คน มาสอบปากคำและทำประวัติ เพื่อจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันนี้ หลังจากเมื่อช่วงกลางดึก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน สนธิกำลังกันปิดล้อมกวาดล้างบ่อนการพนัน เนื่องจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีนโยบายให้เร่งกวาดล้างบ่อนการพนัน โต๊ะบอล และอาวุธสงคราม เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วย อาทิ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)สนธิกำลังกันบุกจู่โจม 5 เป้าหมาย เป้าหมายที่ 1 คือบ้านเลขที่59-61ถนนสามหมอ2ต.สะเตง อ.เมือง พบ อาวุธปืนAK-102จำนวน1กระบอก กระสุน82นัด อาวุธปืนขนาด9มม. จำนวน1กระบอก กระสุน34นัด ปืนขนาด .45 จำนวน1กระบอก กระสุน 39นัด เป้าหมายที่2คือบ้านเลขที่18/9ซอยเต็กมีห้าง ต.สะเตง อ.เมือง จับนักพนันได้รวม 68ราย เป็นชาย41รายและหญิง27ราย เป้าหมายที่3บ้านไม่มีเลขที่ ภายในซอยมัจฉานุ ถนนผังเมือง4เขตเทศบาลนครยะลา ตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโพยพนันบอล พร้อมผู้รับโพยพนันบอล 4ราย เป้าหมายที่4บ้านเลขที่83/99 หมู่1ต.สะเตงนอก อ.เมือง ตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโพยพนันบอล พร้อมผู้รับโพยหญิง3ราย และเป้าหมายที่5โต๊ะสนุกเกอร์คิวทอง ข้างโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลา ตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโพยพนันบอล พร้อมผู้รับโพยพนันบอล หญิง3ราย
+++เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวบผู้ต้องหาคดียาเสพติด นายธวัชชัย ธรรมเพชร อายุ 22 ปี, นางสาวสุธารัตน์ ทิ้งหลง อายุ 22 ปี, นายอับดุล พลนุ้ย อายุ 32 ปี และนายฐิรวัฒน์ จิตรา อายุ 26 ปี ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ปส.จับกุมพร้อมยาบ้า 198,097 เม็ด, กระท่อม 46 ใบ, รถยนต์ 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง, อาวุธปืน 3 กระบอกและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง
+++นายธวัชชัย และนางสาวสุธารัตน์ ถูกจับพร้อมยาบ้า 100,000 เม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์บริเวณลานจอดรถของคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งถนนรามคำแหง เขตวังทองหลาง จากนั้นสกัดจับนายอับดุล ขณะขับรถยนต์ได้กลางซอยรามคำแหง 43/1 ก่อนควบคุมตัวไปขยายผลค้นห้องพัก พบยาบ้าอีก 98,000 เม็ด นอกจากนี้ยังขยายผลจับนายฐิรวัฒน์ พร้อมยาบ้าอีก 97 เม็ด ที่ห้องพักในเขตวังทองหลาง
+++พลตำรวจโทเรวัช กลิ่นเกสร ผู้บัญชาการ ปส.กล่าวว่า หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนจังหวัดเชียงราย มาพักไว้ที่คอนโดมีเนียม ย่านรามคำแหง จึงส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด โดยทราบว่าผู้ต้องหาเตรียมส่งยาเสพติดไปให้ลูกค้าใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ นัดหมายที่ย่านบางแค และมีการชักจูงเยาวชนมาลำเลียงยาเสพติดด้วย
+++สำหรับนายธวัชชัย เป็นนักศึกษา ต้องการใช้เงินจึงมารับจ้างขนยาเสพติด เพราะเห็นว่าได้เงินดี ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนอาวุธปืน พบว่ามีทะเบียนถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งที่ขบวนการค้ายาเสพติดมีอาวุธปืน และนายทะเบียนออกใบอนุญาตให้อาจนำไปใช้คุ้มกันและยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ขณะเข้าจับกุม
+++นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การออกคำสั่งโยกย้ายนายอำเภอเนื่องจากเข้าข่ายทุจริตมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท ว่ากำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ถ้าไม่พบว่ามีการทุจริตก็จะส่งกลับพื้นที่ แต่ถ้าพบว่ามีการทุจริตจริง ก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานทุกอำเภอสบายใจว่าหากมีเรื่องใดที่ไม่เข้าใจ กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมบัญชีกลางเปิดคลินิกให้คำแนะนำทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15.00 น. ยืนยันว่าคำสั่งโยกย้ายนายอำเภอนี้จะไม่กระทบต่อโครงการดังกล่าว และไม่ทำให้ล่าช้า โดยโครงการใดที่งบประมาณไม่เกิน 500,000 บาท จะดำเนินการเสร็จตามกำหนดเดิมในวันที่ 31 ม.ค.2559 ส่วนโครงการที่งบประมาณเกิน 2 ล้านบาท จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบ ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าบางตำบลใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ เชื่อว่า ถ้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ก็จะไม่ได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน และจะต้องมีการทำประชาคมใหม่
+++เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายณรงค์ศักดิ์ พลายอร่าม หรือ ตุ้ย อดีตการ์ดนปช. และ นายพีรพงษ์ สินธุสนธิชาติ หรือ ธานินทร์ มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษา คดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิด เอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. หน้าอาคารชินวัตร 3 เขตจตุจักร แต่ระเบิดไปถูกเสาอาคารและต้นไม้ประดับของอาคารชินวัตร 3 ทำให้ได้รับความเสียหายคิดเป็นเงิน 20,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2557 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ มีพยานเบิกความว่า นายณรงค์ศักดิ์ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ และให้รายละเอียดในชั้นสอบสวนว่าเป็นผู้ไปรับระเบิดและเครื่องยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า รวมถึงเส้นทางขับรถยนต์ จุดที่ขับรถพานายยงยุทธ บุญดี ไปยิงระเบิด รวมถึงเส้นทางขับรถยนต์กลับ และพยานบุคคล พยานเอกสาร รวมถึงพยานวัตถุ ยังสอดคล้องกับคำเบิกความของนายณรงค์ศักดิ์ ด้วย และพยานโจทก์ยังเบิกความอีกว่า ในส่วนนายพีรพงษ์ จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งให้นายณรงค์ศักดิ์ จำเลยที่ 1 ไปรับอาวุธ เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุ พยานโจทก์เบิกความมีน้ำหนัก พิพากษา จำคุก นายณรงค์ศักดิ์ และนายพีรพงษ์ ฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน คนละ 12 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ 3 ปี ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 43 ปี 4 เดือน
+++ในวันอาทิตย์นี้ จะมีการเลือกตั้งของเมียนมาร์ รัฐบาล เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเขตย่างกุ้ง กองกำลังตำรวจเมียนมาร์แจ้งในวันนี้ว่า ได้ยกระดับความเตรียมพร้อมเป็นสีเหลืองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน กำลังตำรวจกว่า 3,000 นายหรือราวครึ่งหนึ่งของทั้งเขตประจำการเตรียมพร้อม เสริมด้วยกำลังตำรวจฝึกพิเศษ 5,400 นายจากทั้งหมด 40,000 นาย ดูแลความเรียบร้อยคูหาเลือกตั้งในเขตย่างกุ้ง 5,495 คูหา และผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 4.9 ล้านคน การเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศ 32 ล้านคน ผู้สมัคร 6,039 คน จาก 91 พรรคการเมืองและไม่สังกัดพรรค ชิงที่นั่งในสภาระดับต่าง ๆ ทั้งหมดกว่า 1,000 ที่นั่งใน 1,163 เขตเลือกตั้ง
CR:แฟ้มภาพ