*รอบวัน:ตั้งอนุกก.สอบบัญชีทรัพย์สิน เก่ง การุณ /ประชุมแก้ปัญหาการบิน/รัสเซียขอรอผลสรุปเครื่องบินตก*

+++ความคืบหน้าในการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กรณีซื้อขายพระเครื่อง และนาฬิกา มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท และการไม่แจ้งหุ้นบริษัทกำจัดขยะแก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายการุณ ฐานปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ อันเป็นเท็จแล้ว โดยมีนายณรงค์ รัฐอมฤต เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ  ส่วนจะตรวจสอบทรัพย์สินในส่วนใดบ้าง นายวรวิทย์ กล่าวว่า จะเข้าไปตรวจสอบทั้งหมดว่า มีส่วนไหนที่ไม่ได้แจ้งบ้าง

+++การประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของคณะกรรมการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกศบปพ. เปิดเผยว่า พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ เป็นประธาน ผู้แทนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รายงานถึงการประชุมร่วมกับกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น (Japan Civil Aviation Bureau : JCAB) ระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย. มีการหารือทบทวนเรื่องการออกใบอนุญาตทางด้านการบิน ใบรับรองต่างๆ และการประเมินระบบตรวจสอบทางด้านความปลอดภัย โดย JCAB พร้อมที่จะร่วมมือแก้ปัญหาข้อบกพร่อง

+++จากนั้นหารือร่วมกันถึงการเตรียมความพร้อมรับการตรวจสอบของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) ที่จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของไทยระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย. โดยจะมาตรวจการแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านความปลอดภัยของ กพท.และสายการบินของไทย ซึ่ง กพท.แจ้งว่าขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลต่างๆ พร้อมในการรับการตรวจตามหัวข้อที่แจ้งมาและได้ประสานงานกับสายการบินที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว

+++นอกจากนี้ กำชับให้กระทรวงคมนาคม ดูแลป้องกันปัญหาการปล่อยโคมลอย โคมควัน และบั้งไฟ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงและเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรการความปลอดภัยที่องค์การการบินระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) และองค์กรการบินประเทศต่างๆ กำลังให้ความสนใจ

+++การประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล 9 พ.ย.พิจารณาและประเมินสถานการณ์จากปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสลากรายย่อยที่ยังไม่สามารถหาซื้อสลากตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด คณะทำงานที่ออกไปสำรวจ พบว่าสลากที่ขายส่วนใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว จึงไม่แน่ชัดว่า มีการซื้อแบบกักตุนและขายใกล้วันสลากออกเพื่อโก่งราคาหรือไม่ ดังนั้น สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาและสำรวจให้เกิดความชัดเจนว่า สลากกว่า 26 ล้านฉบับที่หมดลงอย่างรวดเร็ว ไปอยู่ในมือผู้ค้าสลากรายย่อยหรือกลุ่มที่ต้องการซื้อไว้กักตุน โดยเดือนมกราคม 2559 การเพิ่มสลากจาก 26 ล้านฉบับ เป็น 44 ล้านฉบับ คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการ แต่สิ่งสำคัญต้องดูว่าเมื่อเพิ่มแล้วยังมีความต้องการสูงก็จะต้องมีมาตรการเข้มงวดโดยเฉพาะการตรวจสอบเอาผิดหรือหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาส

+++ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนตุลาคม 2558 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน อยู่ที่ระดับ 73.4 จากเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 72.1 เนื่องจากผู้บริโภคเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และมีความหวังว่าเศรษฐกิจกิจไทยเริ่มเข้าสู่การฟื้นตัวแล้ว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วและกำลังฟื้นตัวขึ้น แต่ยังอยู่ในภาวะเปราะบางจากปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวระดับต่ำ แต่หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายเม็ดเงินลงสู่ระบบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม จะทำให้การบริโภคฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 2.7 – 2.8

+++ขณะที่ปี 2559 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเร่งเบิกจ่ายเงินลงสู่ระบบมากขึ้น การเดินหน้าโรดโชว์ผลักดันการส่งออก และมาตรการดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) น่าจะเห็นการลงทุนที่โดดเด่นมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวอยู่ในกรอบร้อยละ 3.5-4 รวมทั้งการส่งออกจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้

+++ หุ้นไทยวันที่ 5 พ.ย.ปิดตลาด ลดลง 10.26จุด ที่ระดับ 1,413.16 จุด มูลค่าซื้อขาย 44,040.73ล้านบาท นักวิเคราะห์จากบล. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ยังได้รับแรงกดดันจาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงเมื่อคืน  ส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศ นางเจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณต่อการจะพิจารณาเรื่องปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. มีน้ำหนักถึงร้อยละ 60 ที่จะปรับขึ้นช่วงเดือนธ.ค. ต้องระวังค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า และ ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่า ส่งผลต่อแรงขายของนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สะท้อนต่อทิศทางการตัดสินของเฟดในการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น บวก189.50 จุด ปิดที่ 19,116.41 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 2.53 จุด  ปิดที่ 23,051.04จุด

+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐบาลไทยเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. ในโอกาสนี้จะได้เข้าพบกับรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี) เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นและไทยจะเจรจาในเวทีระดับรองนายกรัฐมนตรีร่วมกัน และไทยได้ขอให้ญี่ปุ่นจัดการประชุมระดับรองนายกฯอย่างต่อเนื่องโดยเสนอให้ผลัดกันเป็นเจ้าภาพในการติดตามการค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ

+++ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ที่มีผู้เสียชีวิต 67 ศพ บาดเจ็บสาหัส 45 คน และบาดเจ็บอีก 72 ปลายปี2551 ศาลฎีกา มีคำพิพากษาแก้คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำคุก3 ปี จำเลยที่ 1 คือนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว กรรมการผู้จัดการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส (2003) จำกัด ผู้บริหารซานติก้าผับ ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ตามมาตรา291 ส่วนนายบุญชู เหล่าสีนาท กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท โพกัสไลท์ซาวน์ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งรับจ้างติดตั้งเอฟเฟ็กต์ซานติก้า ผับ จำเลยที่ 7 พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุก 3 ปี และปรับบริษัทโฟกัสไลท์ ฯ จำเลยที่ 6 เป็นเงิน 20,000 บาท และให้จำเลยที่ 6 กับจำเลยที่ 7 ร่วมกันชดใช้เงินแก่โจทก์ร่วมที่ 4-8 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เป็นเงิน 5,120,000 บาท ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่สั่งจำคุกคนละ 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา

+++สถานการณ์ต่างประเทศ นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า ข้อสันนิษฐานต่างๆเกี่ยวกับสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารของสายการบินเมโทรเจ็ตของรัสเซียในคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ มีคนเสียชีวิต 224 ศพ เป็นเพียงการคาดเดา เหตุการณ์และข้อสันนิษฐานต่างๆจะถูกสอบสวนอย่างละเอียด เขาแถลงเรื่องนี้หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอังกฤษอ้างอิงข้อมูลข่าวกรองว่าเครื่องบินดังกล่าวน่าจะถูกวางระเบิด ที่ผ่านมาเครือข่ายย่อยของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ประจำคาบสมุทรไซนายอ้างว่าพวกเขายิงเครื่องบินดังกล่าวตก

+++ด้านประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ของอียิปต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเยือนอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่าไม่อยากให้ทุกฝ่ายด่วนสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุ อยากให้อดใจรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ วันนี้ รัฐบาลอังกฤษสั่งระงับทุกเที่ยวบินของอังกฤษไม่ให้บินเข้าและออกจากสนามบินในเมืองชาร์ม เอลชีค เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันภัย โดยอังกฤษจะส่งคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการบินไปประเมินการจัดระบบรักษาความปลอดภัยประจำสนามบินนั้นก่อน

CR:แฟ้มภาพ