ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++เหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินรัสเซียระเบิดก่อนตกลงในอียิปต์เมื่อวันเสาร์ มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะมีต้นตอจาก "ระเบิด" หลังมีรายงาน อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดคณะกรรมการตรวจสอบกล่องดำเปิด ขณะที่ซีเอ็นเอ็นอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯพูดเจาะจงมากกว่า ด้วยเชื่อว่ามีการซุกระเบิดบนเครื่องจากฝีมือของพวกไอเอส เชื่อว่าเป็นระเบิดแต่ลักษณะของมันยังไม่ชัดเจน มีการตรวจสอบทรายที่เก็บมาได้จากจุดตกเพื่อพยายามและสรุปว่ามันเป็นระเบิดหรือไม่ ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการบินของอียิปต์บอกว่ากล่องบันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบินของเครื่องบินได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ก็สามารถถอดและกู้ข้อมูลคืนมาได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์
++++ในส่วนของสหรัฐฯ เผยว่าไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงคำแนะนำด้านการบินในแถบคาบสมุทรไซนาย จากคำยืนยันของทำเนียบขาวในวันพุธ(4พ.ย.) หลังมีข้อสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆว่าการตกของเครื่องบินรัสเซีย เป็นไปได้ว่าจะมีพวกหัวรุนแรงเกี่ยวข้อง หลังทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติอเมริกา (เอฟเอเอ) เคยออกคำแนะนำด้านการบินในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยเตือนให้หลีกเลี่ยงบินในระดับต่ำกว่า 26,000 ฟุต โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่จะถูกเล่นงานโดยพวกหัวรุนแรง
+++โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีของเซาท์ซูดานว่า เครื่องบินสินค้าลำหนึ่งของเซาท์ซูดาน รุ่นอันโตนอฟ-12 ที่ผลิตในรัสเซีย ตกไม่นานหลังการบินขึ้นจากสนามบินในกรุงจูบาเมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ มีคนเสียชีวิต 17 ศพ เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้องขณะบินจากกรุงจูบาไปยังเมืองปาโลอิช รัฐอัปเพอร์ไนล์ ทางภาคเหนือของประเทศ แต่จะมีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะเกิดเหตุมีคนบนเครื่องบิน 19 คน ผู้รอดชีวิตรวมถึงนักบินและเด็กคนหนึ่งยังไม่ทราบอายุ ภาพข่าวจากสำนักข่าวประจำท้องถิ่นแห่งหนึ่งแสดงให้เห็นซากชิ้นส่วนเครื่องบินในสภาพถูกไฟไหม้ ตกเกลื่อนอยู่ในป่าริมฝั่งแม่น้ำไนล์
+++เอเอฟพีและสถานีโทรทัศน์ไนล์ทีวีของทางการอียิปต์รายงานว่า มีตำรวจเสียชีวิต 3 ศพและบาดเจ็บอีกหลายคนในวันนี้หลังมือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่งขับรถพุ่งชนประตูด่านทางเข้าสโมสรนายตำรวจในเมืองเอล อาริช เมืองเอกของจังหวัดไซนายเหนือ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ด้านเครือข่ายกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ประจำคาบสมุทรไซนายของอียิปต์อ้างว่า อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ เพื่อแก้แค้นการจับกุมสตรีชาวเบดูอินคนหนึ่ง
+++นายมูอัซ อาลี โฆษกของประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีนของมัลดีฟส์ กล่าวว่าประธานาธิบดีได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนและความสงบเรียบร้อยในประเทศ เพิ่มอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ก่อนการประท้วงใหญ่ในกรุงมาเลของพรรคมัลดีเวียน เดโมแครติก(เอ็มดีพี) พรรคฝ่ายค้านหลักของมัลดีฟส์ เพื่อขับไล่รัฐบาลในอีก 2 วันข้างหน้า และเพื่อกดดันรัฐบาลให้ปล่อยตัวนายโมฮัมเหม็ด นาชีด ผู้นำพรรคเอ็มดีพี สำหรับการจับกุมนายนาชีดมีขึ้นหลังเกิดเหตุระเบิดบนเรือความเร็วสูงของประธานาธิบดียามีนเมื่อวันที่ 28 กันยายน ภริยาของนายยามีนและเจ้าหน้าที่อีก 2 คนบาดเจ็บ ส่วนนายยามีนปลอดภัย ทางการมัลดีฟส์ ระบุว่าเป็นความพยายามลอบสังหารนายยามีน และได้จับกุมรองประธานาธิบดีอาเหม็ด อาดีบ ในข้อหากบฏ ระบุว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดลอบสังหารเช่นกัน
++++นายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวว่า เขาและนายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียจะเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเรือยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลส์ ที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนอยู่เป็นประจำและจะแล่นผ่านทะเลจีนใต้ในวันนี้ การเยือนทะเลจีนใต้ของนายคาร์เตอร์อาจจะยิ่งเพิ่มความร้าวฉานมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน สืบเนื่องจากจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้และพยายามจะเข้าไปใช้ประโยชน์ด้วยการถมที่ดินสร้างลานบินและสิ่งปลูกสร้างบนหมู่เกาะดังกล่าว ส่วนการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของกลุ่มอาเซียนในวันนี้ ยุติลงโดยไม่มีแถลงการณ์ร่วม หลังสหรัฐฯและจีนซึ่งร่วมประชุมด้วยเห็นไม่ตรงกันในประเด็นที่ว่า ควรจะเอ่ยถึงปัญหาพิพาทในทะเลจีนใต้ไว้ในแถลงการณ์ร่วมหรือไม่ ที่ผ่านมามาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไนและไต้หวันต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำพิพาททับซ้อนกับจีน
+++++เป็นอีกครั้งที่หุ้นของโฟล์คสวาเกน ปรับตัวลดลงหนักที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต เยอรมนี บริษัทยอมรับพบความผิดปกติที่เกี่ยวกับข้องกับการละเมิดข้อกำหนดด้านการปล่อยมลพิษของเครื่องยนต์ในรถยนต์มากถึง 800,000 คัน ในนั้นมีอยู่ 98,000 คันที่เป็นรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน โฟล์คสวาเกน สูญเสียมูลค่าการตลาดไปเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์
+++ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวลดลง น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐเพิ่มขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน เพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล เป็น 482.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเล็กน้อย ขณะเดียวกันกำลังผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้ว ก็เพิ่มขึ้นอีก 48,000 บาร์เรล เป็น 9.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(4พ.ย.) ปิดแดนลบ จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน และความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ที่บอกว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนสุดท้ายของปี ดาวโจนส์ ลดลง 50.57 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.867.58 จุด นางเยลเลน กล่าวระหว่างให้ปากคำต่อสภาคองเเกรสว่าความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคมยังคงมีอยู่ หากข้อมูลต่างๆยังแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง ความเห็นนี้มีขึ้น 2 วันก่อนหน้าที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯมีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานเดือนตุลาคม
+++ความเป็นไปได้ที่จะธนาคารกลางสหรัฐฯมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ ประกอบกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฉุดให้ทองคำวานนี้(4พ.ย.) ปิดลบพอสมควร แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,106.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++บีบีซี รายงานอ้างนางเทเรซา เมย์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของอังกฤษว่า บริษัทที่ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตของอังกฤษจะต้องเก็บบันทึกการใช้สื่อออนไลน์และที่อยู่เว็บไซต์ทั้งหมดที่พลเมืองอังกฤษใช้ท่องเว็บไว้เป็นหลักฐาน 1 ปี ตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ขณะเดียวกัน รัฐบาลเสนอว่า ผู้พิพากษาระดับสูงมีอำนาจที่จะยับยั้งเรื่องการสอดแนมข้อมูลการสื่อสารทางโทรศัพท์และสื่ออื่นๆที่ดำเนินการโดยตำรวจและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอื่นๆเช่นหน่วยข่าวกรอง สำหรับร่างกฎหมายนี้มุ่งจะปฏิรูปวิธีการที่ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องใช้วิธีการสืบสวนเชิงลับ เพื่อติดตามคนร้าย และป้องปรามไม่ให้มีการก่อคดีอาชญากรรม
+++นายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ปอนตา ของโรมาเนียแถลงลาออก หลังประชาชนราว 20,000 คนออกมาประท้วงเรียกร้องให้เขาลาออก แสดงความรับผิดชอบ หลังเกิดเหตุไฟไหม้สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในกรุงบูคาเรสต์ เมื่อคืนวันศุกร์ก่อน มีคนเสียชีวิต 32 ศพ เหตุไฟไหม้ดังกล่าวมีขึ้นหลังวงดนตรีวงหนึ่งจุดดอกไม้ไฟขณะทำการแสดง นายปอนตา อยู่ระหว่างการถูกไต่สวนคดีคอร์รัปชั่นคดีหนึ่งมาก่อนแล้ว นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของโรมาเนีย ที่ถูกดำเนินขณะดำรงตำแหน่ง เขาถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง เลี่ยงภาษีและฟอกเงิน ย้อนหลังไปหลายปี ที่ผ่านมาเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว กล่าวหาอัยการว่าไม่มีความเป็นมืออาชี