*รมว.พลังงาน พร้อมทบทวนนโยบายพลังงาน ผู้ว่ากฟผ.เน้นสมดุลการใช้พลังงาน*

04 พฤศจิกายน 2558, 21:32น.


ทิศทางพลังงานไทย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ นโยบายและทิศทางพลังงานไทย ภายในงาน IEEE DINNER TALK ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ สมาคมสถาบันวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย จัดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงานในปี 2559 จะใช้งบลงทุนรวม 691,572 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนด้านไฟฟ้า มีโครงการสำคัญ เช่นโครงการขยายและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าของกฟผ.





โครงการโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และโครงการโรงไฟฟ้าของภาคเอกชน (IPP) การลงทุนด้านปิโตรเลียม เช่น การลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. และผู้รับสัมปทาน การลงทุนด้านพลังงานทดแทน ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่คาดว่าจะจ่ายเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ ในปี 2559 และการลงทุนตามแผนอนุรักษ์พลังงาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไฟฟ้าขนส่งมวลชน 10 สาย ซึ่งการลงทุนระบบต่างๆในปี 2559 จะเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี (PDP 2015) รวมทั้งเป็นไปเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ



ปัจจุบันแม้จะมีประกาศลอยตัวราคาพลังงานบางประเภท ทำให้ภาครัฐไม่ต้องนำรายได้ส่วนหนึ่งไปอุดหนุนราคา แต่การลอยตัวเกิดจากการบริหารจัดการค่าการตลาด ภาษีสรรพสามิต และอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ใช่การลอยตัวเพราะการบริหารจัดการต้นทุนพลังงานให้ต่ำลง ทำให้ราคาขายไม่สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุน เห็นได้จากราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินอยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อลิตร แต่ราคาต้นทุนอยู่ที่ 14-15 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ประเภทต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 บาทต่อลิตร ส่วนราคาต้นทุนอยู่ที่ 27-28 บาทต่อลิตร ดังนั้นกระทรวงพลังงานจะติดตามพร้อมทบทวนปรับนโยบายพลังงาน ให้เกิดการบริหารการลงทุน และ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับต้นทุนพลังงานทุกประเภท





ภายในงานวันนี้ ยังมีการอภิปรายเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้าตามแผน PDP 2015 โดยนายสุนชัย คำนูนเศรษฐ์ ผู้ว่าการกฟผ. พร้อมด้วย นายสมชาย โรจน์รุ่งวศินกุล ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นายสุนชัย กล่าวว่า เป้าหมายการจัดทำแผน PDP จะให้ความสำคัญ 3 เป้าหมาย คือ ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่อยู่ในระดับที่เหมาะสม และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสร้างสมดุลในการใช้พลังงานและนำพลังงานทดแทนมาใช้ให้มากขึ้น และยังมีส่วนในการลดต้นทุนในการผลิตพลังงานอีกด้วย ซึ่งภายใน 10 ปีของแผนคาดว่าจะลดการใช้พลังงานไปได้ 9 หมื่นล้านหน่วย และลดการสร้างโรงไฟฟ้าได้ประมาณ 10,000 เมกะวัตต์



ขณะที่นายสมชาย กล่าวว่า บทบาทของการไฟฟ้านครหลวง คือการวางแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่าย  ซึ่งการไฟฟ้านครหลวงมีการจ่ายไฟในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ยืนยันมีความพร้อมในการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน นอกจากนี้มีโครงการส่งเสริมในการประหยัดพลังงานในอาคาร  ซึ่งหากสามารถบริหารจัดการที่ถูกต้องจะสามารถลดใช้พลังงานลงได้แต่ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานจะไม่ลดลง โดยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญให้ไปแนะนำและประเมินผล ซึ่งจากการวัดผลหลังจากโครงการพบว่าสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างน่าพอใจ 



ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เน้นเรื่องการวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้า มีการวางแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า และมุ่งหวังในการจ่ายไฟที่เพียงพอทั่วทุกพื้นที่ และสร้างความเข้มแข็งของระบบไฟฟ้า รวมถึงการรองรับพลังงานหมุนเวียนที่จะเข้ามา



  



 ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี 

ข่าวทั้งหมด

X