*กสทช.ให้ข้อมูลการลักลอบใช้เสาวิทยุสื่อสารของพ.ต.ต.ปรากรม พร้อมลงพื้นที่*

ความเคลื่อนไหวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระดับผู้บริหาร ได้เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่พ.ต.ต. ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อดีตสารวัตรกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือปอท. ที่ลักลอบนำเสาสัญญาณและอุปกรณ์ระบบวิทยุดีทีอาร์เอส จากสถานีตำรวจนครบาลบึ่งกุ่ม ไปติดตั้งบนอาคารใบหยกทาวเวอร์ 2 เพื่อให้การรับส่งสัญญาณวิทยุมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งในวันตรวจค้นบ้านพักเจ้าหน้าที่ก็พบวิทยุสื่อสารโมบาย (Mobile Phone) พร้อมเสาวิทยุ 5 ต้นอยู่ในห้องพักดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการผูกโยงสัญญาณไปที่อาคารสูง เชื่อว่าเป็นพฤติกรรมในการลักลอบใช้วิทยุสื่อสารหรืออาจจะดักฟัง เนื่องจากสารวัตรเอี๊ยดเป็นผู้ที่มีความชำนาญด้านนี้

พร้อมกันนี้ยังพบว่ามีวิทยุสื่อสารแบบพกพากว่า 200 เครื่องอยู่ในห้อง จากการตรวจสอบพบว่า พ.ต.ต.ปรากรมเป็นผู้เบิกวิทยุสื่อสารจำนวนดังกล่าวจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่านำมาใช้ในงานราชการ หลังจากเข้าให้ข้อมูลผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองตำรวจสื่อสาร และเจ้าหน้าที่จากกสทช. ได้เดินทางไปตรวจสอบ เสาสัญญาณดังกล่าว ที่ตึกใบหยก 2 เพื่อตรวจสอบว่า เข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง และพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับความผิดที่เกิดขึ้น

ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางกลับเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงบ่าย โดยผู้สื่อข่าวรอสอบถามถึงประเด็นการเดินทางไปตรวจสอบการติดตั้งเสาสัญญาณของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ กสทช. แต่พล.ต.ท.ศรีวราห์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า ไม่ให้สัมภาษณ์แล้ว พร้อมตำหนิการเขียนข่าวของสื่อมวลชน ว่า“เมื่อวานนี้ยังนำไปเขียนกันมั่วไปหมด" ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องทำงานด้วยความเร่งรีบ"

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข