การแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า หลังสภาพยุโรป หรือ อียูได้เดินทางมาตรวจสอบเมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว ชื่นชมการทำงานของไทยที่มีความตั้งใจในการดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งรัฐบาลก็จะดำเนินการต่อไปเพื่อชาวประมง รวมถึงทรัพยากรทางทะเล โดยจะยังคงไม่หยุดดำเนินการ โดยจากนี้รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ 3 เรื่อง คือ การแก้ไขพระราชบัญญัติการประมง, การแก้ไขแผนงานจัดการประมงทางทะเล ,และการวางแผนงานระดับชาติของการแก้ปัญหา ไอยูยู ซึ่งทางอียู จะเข้ามาตรวจสอบในไทยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอีกครั้งช่วงต้นปีหน้า
ส่วนการพบหารือกับ ประธานาธิบดี ไมตรีพละ สิริเสนาของศรีลังกา ในฐานนะแขกของรัฐบาลนั้น ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้ ในการร่วมมือของทั้ง 2ประเทศในการร่วมกันที่จะพัฒนาเรื่องการประมงร่วมกัน ส่วนในเรื่องรายละเอียดของหลักการก็คงต้องมีการหารือกันในระดับชาติต่อไป
ส่วนการแก้ไขปัญหา การบิน หลังจากที่องค์การการบินพลเรือน ระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเอโอ ให้ไปแดงด้านการบินของไทยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ก็มีความคืบหน้าเป็นลำดับ ได้มีการตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติ มาดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการบินพลเรือน อีกทั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการยกเลิกการบิน
ส่วนการติดตามสถาการณ์น้ำขณะนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำใช้ขณะนี้ของไทยมีปริมาณอยู่ 4,400ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าเดิมที่คาดการณ์หลังหมดฤดูฝนว่าจะมีน้ำเก็บกักเพียง 3,600-3,700ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำที่มีตอนนี้ก็สามารถใช้ทั้งระบบได้วันละไม่เกิน 20ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอร้องเกษตรกรให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ในเขตพื้นที่ที่ไม่มีน้ำ และขอให้เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ที่ลงไปให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชที่จะเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งภาพรวมขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2ของการแก้ปัญหา ที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าพื้นที่ใดควรจะปลูกพืชอะไร เพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ รวมถึงหาแนวทางการช่วยเหลือทั้งระบบตั้งแต่ต้นทาง ถึงกระบวนการปลูก ไปจนถึงจำหน่าย นอกจากนี้ในอนาคตก็จะพยายามส่งเสริมให้ทุกภูมิภาค ทำการเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อทำให้เกษตรกรทั่วประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น