การกำจัดคราบน้ำมัน ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่าจากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าคราบน้ำมันมีแหล่งที่มาจากปากแม่น้ำ จ.สมุทรสาครอาจเป็นไปได้ที่เรือประมงจะลักลอบทิ้งน้ำมันเครื่อง ได้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนำเรือออกตรวจในระยะ12 ไมล์ทะเล เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของคราบน้ำมัน ซึ่งอาจมีเรือเดินทะเลเอาของเสียไปปล่อย รวมทั้งมีการตรวจสอบบันทึกการเดินเรือของเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้คือเพิ่มความถี่ในการเฝ้าระวัง และขอความร่วมมือกับชาวประมงให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ขณะนี้ยังจับไม่ได้ว่าใครปล่อยคราบน้ำมันดังกล่าว จึงยังไม่สามารถแจ้งความเอาผิดและเรียกร้องค่าเสียหายได้
นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า เพิ่มเติม การติดตามคราบน้ำมัน มีการจัดเก็บคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหมดแล้ว คณะอนุกรรมการก็ได้ลงพื้นที่ และตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันที่ผ่านเวลานั้นหมดแล้ว หรือไม่สาเหตุอื่นๆ ที่น้ำมันจะไหลลงทะเล ส่วนก้อนน้ำมันดิน ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ส่งน้ำมันไปตรวจสอบที่ประเทศเบลเยียมแล้ว น้ำมันที่ขึ้นมาบนหาดจากการจัดเก็บ อาจจะตรวจได้ยาก ปริมาณน้ำมันทั้งหมดประมาณ 10 ตัน เรือที่ต้องสงสัยที่ตรวจสอบ จะมีเรือที่เข้าไปคลังน้ำมันอยู่ไม่กี่เที่ยว ไม่ถึง 10 ลำต่อเดือน เพราะมีการดูแลผ่านระบบควบคุมจราจรทางน้ำอยู่ กรมเจ้าท่าจะต้องนำข้อมูลกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติมาเป็นหลักฐานให้รัดกุมด้วย
ด้านนาย วีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การตรวจสอบน้ำมัน ที่ส่งมาจากกรมเจ้าท่า เบื้องต้นมีการเก็บตัวอย่างน้ำมันเพื่อตรวจสอบ เพื่อไปตรวจสอบแหล่งผลิตน้ำมันในประเทศไทย มีการร่วมกันตรวจสอบหลายหน่วยงาน ในประเทศไทยยังไม่มีเครื่องมือเพียงพอ จึงต้องส่งไปประเทศเบลเยี่ยม พอทราบข้อมูลการตรวจสอบแล้ว ก็สามารถระบุได้ละเอียด น้ำมันดิบกับที่ถูกกลั่นมาแล้ว ค้นหาเชื่อมโยงมาจากที่ไหนบ้าง
แฟ้มภาพ