พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ดีเฟนส์ แอนด์ ซีเคียวริตี (Defense & Security) 2015” ซึ่งเป็นการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง ทั้งทางบก เรือ และอากาศในระดับภูมิภาค ตลอดจนจัดแสดงเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์จากอุตสาหกรรมการป้องกันชั้นนำระดับโลก โดยมีพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้แทนจากนายทหารระดับสูงของกองทัพแต่ละประเทศ รวมถึงภาคเอกชนเข้าร่วมงาน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรได้พบกับ รมว.กลาโหมยูเครน ได้หารือเรื่องรถถังโอพลอตที่ไทยสั่งซื้อแล้วแต่ยังได้รับไม่ครบ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยูเครน ยืนยันว่าจะทำตามสัญญาให้ได้ แต่ยังติดขัดเรื่องความไม่เรียบร้อยของสถานการณ์ภายในยูเครน โดยในเบื้องต้น เขาจะส่งรถถังโอพลอตมาก่อน 5 คัน ซึ่งพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ติดตามอยู่ตลอดเวล
นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า จากสถานการณ์ด้านความมั่นคงในปัจจุบันมีความซับซ้อน ทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีมีความทันสมัย นอกจากกองทัพมีหน้าที่ปฏิบัติด้านการทหารแล้ว ยังต้องมีความพร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเมื่อประสบพิบัติและแก้ไขปัญหาอื่นๆ อาทิ การป้องกันการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นงานนี้จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตและผู้แทนนายทหารระดับโลกได้แลกเปลี่ยนความรู้ และเสริมสร้างความร่วมมือในระยะยาว เพื่อเป็นช่องทางพิเศษให้กับภาคการผลิตจากนานาประเทศด้วย
ทุกเหล่าทัพพยายามดำเนินการพัฒนายุทโธปกรณ์ แต่ยังมีราคาค่อนข้างสูง เพราะในอนาคต เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เราต้องอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ เช่น ยูเครนจะมีการประกอบรถเกราะบีทีอาร์ในประเทศไทย แต่ในส่วนที่ไทยจะทำเองยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณที่กระทรวงกลาโหมได้รับน้อยมาก ทั้งเรื่องงานวิจัยและพัฒนา จึงต้องอาศัยบริษัทเอกชนร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพมีขีดความสามารถในการดำเนินการแต่ไม่สร้างสามารถสร้างโรงงานได้ เพราะติดเรื่องงบประมาณ