เมืองไทยฯ(1):ปธน.ศรีลังกาเยือนไทย/กรธ.พร้อมฟังความเห็น/เร่งฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ7แห่ง

เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีไมตรีพละ สิริเสนา แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา พร้อมพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่แห่งศรีลังกา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญ (ไหปลาร้า) มาประดิษฐานที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 1-16 พฤศจิกายน 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาและในโอกาสฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี ไทย-ศรีลังกา  ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลัยสักการะพระบรมสารีริกธาตุในพิธี

โดยในช่วงบ่ายวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีศรีลังกา จะสักการะพระบรมสารีริกธาตุและร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์

ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เปิดเผยว่าอยู่ในระหว่างการพิจารณาเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก และนายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวว่า วันนี้จะมีการหารือในหมวดนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐต่อจากการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม จากนั้น จะพิจารณาเรื่องที่คณะอนุกรรมการเสนอเข้ามา และมาตราที่เกี่ยวข้องกับองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นระบบการเลือกตั้งที่มีเสียงคัดค้านนั้น กรธ. พร้อมรับฟังความเห็นของผู้ที่คัดค้าน และเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามามีส่วนร่วมเสนอแนะความเห็น แต่ กรธ.ก็จะรับเฉพาะความเห็นที่เป็นเอกสาร เพราะไม่ต้องการให้แต่ละพรรคเดินทางมาชี้แจงด้วยตัวเอง ซึ่งถ้ามาไม่ครบทุกพรรค กรธ.ก็จะถูกมองว่าเลือกปฏิบัติในการรับฟังความเห็น

โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะไปยื่นหนังสือต่อกรธ.

ส่วนการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) วันนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสปท. เปิดเผยว่าจะเป็นการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ....ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ... ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธานพิจารณาเสร็จแล้ว

ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่บ้านยางกระเบา ต.ท่าเมือง อ.ดอนมดแดง และ เป็นประธานลงนามเอ็มโอยูของจังหวัดอุบลราชธานีกับผู้ประกอบการรถยนต์สาธารณะ  นอกจากนี้จะติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่อ.ดอนมดแดง และอ.นาเยีย ซึ่งมีปัญหาน้ำแล้งต่อเนื่องมาหลายปีด้วย

ส่วนการแถลงผลงาน 1 ปีของรัฐบาล เลื่อนจากเดือนพฤศจิกายนนี้ไปเป็นปลายเดือนธันวาคม เนื่องจากช่วงปลายพฤศจิกายนและต้นธันวาคมมีงานและกิจกรรมสำคัญหลายงาน

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นัดหารือกับกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เพื่อติดตามงานและเร่งรัดการทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ แผนดูแลราคาสินค้าเกษตร และการแก้ไขปัญหาการส่งออก รวมถึงการกำหนดท่าทีของไทยต่อการเข้าร่วมเป็นภาคีในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และความคืบหน้าการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

ส่วนการทำงานด้านการคลัง นายสมคิดมอบให้กระทรวงการคลังเร่งฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ 7 แห่งที่มีปัญหา ให้เป็นไปตามแผน ซึ่งได้แก่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) , เอสเอ็มอีแบงก์, บมจ.การบินไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.), องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท. โทรคมนาคม. โดยในส่วนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) นั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแยกหนี้ดี หนี้เสียออกจากกัน ตามความเห็นของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยคาดว่าจะมีการแยกหนี้เสียประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของสินเชื่อทั้งหมดมาให้กระทรวงการคลังตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) เป็นผู้ดูแลต่อไป เพื่อให้ไอแบงก์กลายเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่มีแต่หนี้ดี จากนั้นกระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนเพื่อล้างขาดทุนให้ไอแบงก์ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อหาพันธมิตรรายใหม่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีผู้แสดงความสนใจ 10 ราย แต่มีผู้สนใจจริงประมาณ 4 ราย และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะหารือกับทั้ง 4 ราย ก่อนตัดสินใจ

วันนี้ยังต้องติดตามผลกระทบทางการเกษตร ภายหลัง นายสุเทพน้อยไพโรจน์ ว่าที่อธิบดีกรมชลประทานส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด ให้ลดการใช้น้ำและปิดสถานีสูบน้ำทั้ง 365 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ส่วนเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสัก ลดการปล่อยน้ำ 

..