ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++หลังมาตรการลดค่าธรรมเนียมซื้อขายที่ดินมีผลบังคับใช้ หลายฝ่ายมองว่า จะกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้รัฐเสียรายได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท คาดปชช.ใช้บริการมากขึ้น นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม รองอธิบดีกรมที่ดิน ว่า ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ ยังไม่มากเท่าที่ควรเนื่องจากเป็นวันแรก ประกอบกับการซื้อขายหรือจำนองต้องมีการเตรียมเอกสารต่างๆ ถึงเชื่อว่าจะมีการมาใช้บริการมากขึ้นในสัปดาห์หน้า และยาวต่อเนื่องไปจนถึงก่อนสิ้นปี 2558 นี้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินในต้นปี 2559 ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินและสำนักงานที่ดินทั่วประเทศมความพร้อมรองรับประชาชนที่มาใช้บริการ โดยขอให้มีการเตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งปัจจุบัน กรมที่ดินใช้ระบบบัตรคิวพร้อมให้บริการ โดยไม่มีการพักกลางวัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าข่ายการได้ลดค่าธรรมเนียม จะต้องเป็นการขายและจำนองที่ดินเปล่า หรือเป็นการขายหรือจำนองที่ดินพร้อมอาคารประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารพาณิชย์ โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นบ้านมือหนึ่ง และยกเว้นที่ดินเปล่าที่ไม่จัดสรรซึ่งหลักเกณฑ์ตามมาตรการจะต้องเป็นการจดทะเบียนซื้อขายหรือจำนองเท่านั้นโดยค่าธรรมเนียมจะเหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมิน
++++นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนให้ธนาคารพาณิชย์การก่อกวนเครือข่ายของธนาคารที่จะทำให้การให้ช่องทางบริการออนไลน์เต็ม หลังมีกลุ่มแฮกเกอร์ ข่มขู่ อาจส่งผล กระทบต่อการให้บริการผ่าน อินเทอร์เน็ตของธนาคาร นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติการเข้มงวดกับการดูแลความปลอดภัยระบบไอทีของธนาคารในขั้นสูงสุด หลังจากได้รับรายงานว่ามีอีเมลส่งต่อกันมาว่ามีหนังสือเตือนจากกลุ่มแฮ็กเกอร์ว่าจะเจาะระบบของธนาคาร ซึ่งได้ประสานงานกับ ธปท.อย่างใกล้ชิดเป็นระยะ สมาคมธนาคารไทยได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่พบว่ามีธนาคารใดได้รับผลกระทบ
+++วันนี้ เวลา14.00 น. นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงเศรษฐกิจ และการเงินเดือน ก.ย. 2558 จับตาการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ 3 เดือนที่เหลือของปี
+++ตลาดหุ้นไทยวันนี้ นักลงทุนยังคงขายหุ้นกลุ่มสามารถออกมาอย่างต่อเนื่องและราคาทรุดหนักเป็นวันที่สอง ภายหลังบริษัท สามารถเทลคอม ซึ่งมีบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น เป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ 70% พัวพันกับ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องหาผิดมาตรา 112 แม้ว่าบริษัทจะปฏิเสธข่าวทั้งหมด เพียงแต่ได้รับการร้องขอความอนุเคราะห์ จากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปิดตลาดที่ 1,390.04 จุด ปรับลดลง-19.22 จุด มูลค่าซื้อขาย 52,619.65 ล้านบาท
+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องดีที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ย เพราะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ก็อาจมีผล หรืออาจทำลายแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐในการฟื้นตัวระยะต่อไปได้ สำหรับไทยเองที่ผ่านมามีการคาดการณ์และเตรียมพร้อมรองรับปัจจัยดังกล่าวเพราะจะทำให้เกิดความผันผวน เกิดภาวะเงินทุนไหลเข้า-ออกได้ โดยในส่วนนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังมีเครื่องมือ เพียงพอที่จะรองรับเรื่องดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
++++ส่วนกรณีที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ลดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาอยู่ที่ 49 จากเดิม 46 เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และมั่นใจว่าในการประเมินอันดับความยากง่ายในช่วงเดือน ม.ค.2559 อันดับของไทยจะถูกปรับให้ดีขึ้นโดยในวันที่ 9 พ.ย. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเรียก นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง และรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ เข้ามาหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
++++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนี้หากไม่มีความจำเป็นจะไม่มีการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก เพราะส่วนที่ได้ดำเนินไปก่อนหน้านี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอแพ็กเกจสนับสนุนการลงทุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก
+++กระทรวงคมนาคมถกแผนลงทุน 20 เมกะโปรเจคใหม่อีกรอบสัปดาห์หน้า หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติเพื่อเปิดเประมูล ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะใช้อำนาจพิเศษ (มาตรา44) เพื่อเร่งรัดการทำงานต่างๆให้เร็วขึ้น หากมีโครงการไหนต้องการขอให้เสนอมา นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปรายละเอียดแต่ละโครงการว่า มีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร สามารถเร่งรัดในส่วนไหนได้บ้าง ก่อนเสนอครม.การใช้มาตรา 44 ครั้งนี้ น่าจะเป็นการช่วยลดขั้นตอน การพิจารณาจากคณะกรรมการต่างๆ เพราะกระบวนการเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นการอนุมัติทำโครงการ
+++โครงการที่มีแนวโน้มใช้มาตรา 44 คงเป็นโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯปัจจุบัน ได้ออกแบบแล้วเสร็จอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการ เช่นรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย -มีนบุรี 34.5 กม.และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) คาดว่าจะเปิดประมูลได้ปี2559 อาจจะขยับให้เร็วขึ้นได้ เช่นเดียวกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (เดินรถ) ส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพงบางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 27 กม. มีความคืบหน้าไปแล้ว 65% อาจจะเร่งรัดในขั้นตอนคณะกรรมการพีพีพี และเปิดประมูลเดินรถภายในปีนี้ นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 เข้ามาเร่งให้ออกเมกะโปรเจค ตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นที่ส่งผลให้โครงการเกิดความล่าช้า เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินได้รวดเร็ว สร้างเงินเข้าสู่ระบบกระตุ้นเศรษฐกิจได้ +++คราบน้ำมันหัวหินลามถึง“วนอุทยานปราณบุร พบลูกโลมาติดคราบน้ำมันลอยตายเกยตื้น “ตรวจสถานการณ์หามาตรการแก้ไขพร้อมเล็งดำเนินคดีเรือต้นเหตุจิสดา”เผยภาพถ่ายดาวเทียมพบต้นตอจากปากน้ำแม่กลอง ขณะที่“ดร.ธรณ์”เสนอ 5 แนวทางแก้ปัญหา คราบน้ำมันมีลักษณะเหนียวข้น สีดำ จับตัวกันเป็นก้อน และส่งกลิ่นเหม็น ถูกน้ำทะเลซัดเข้ามาเกยบริเวณชายหาดเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยพบว่ามีความยาวตลอดแนวชายฝั่งไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) พบว่ายังคงมีคราบน้ำมันและขยะที่เปื้อนคราบน้ำมันซึ่งลอยอยู่ในทะเลถูกคลื่นซัดเข้าสู่ชายหาดหัวหิน แต่มีปริมาณน้อยลง หลังจากตลอด 2 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเก็บคราบน้ำมันและขยะออกจากชายหาด มีรายงานว่าคราบน้ำมันบางส่วนถูกคลื่นซัดไปที่ชายหาดหน้าวนอุทยานปราณบุรี อ.ปราณบุรี ขณะเดียวกันพบว่ามีลูกโลมาขนาดเล็กลอยขึ้นมาผิวน้ำ และพบว่าเป็นลูกโลมาปากขวดเพิ่งตายได้ไม่นาน อายุประมาณ 1-2 ปี ตามลำตัวไม่พบบาดแผลผิวหนังยังไม่เปื่อยยุ่ย พบมีร่องรอยคราบน้ำมันตามตัว เจ้าหน้าที่อุทยานได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ชุมพร ตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตายเป็นด่วน
+++ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดเครื่องบินแบบ DO–228 ขึ้นบินสำรวจในช่วงเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหัวหิน แต่พบคราบน้ำมันความยาวประมาณ 500 เมตร บริเวณสวนสนประดิพัทธิ์ซึ่งกองทัพบกจัดกำลังพลเร่งฟื้นฟูพื้นที่ ขณะที่เว็บไซต์สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสดา ได้รายงานการตรวจสอบภาพดาวเทียม RADARSAT-2 ซึ่งบันทึกภาพเมื่อวันที่ 24 ต.ค. เวลา 18.30 น. พบว่ามีพื้นที่คาดว่าเป็นคราบน้ำมันตั้งแต่บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง รอยต่อจ.สมุทรสงครามและสมุทรสาคร ลงมาจนถึงต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี รวมระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 111 ตารางกิโลเมตร
นายธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าหลังจากนี้ 2-3 วัน จะยังคงมีคราบน้ำมันซัดเข้าหาฝั่งต่อเนื่อง จะต้องใช้ทุ่นดักจับไขมันจากท่าเรือแหลมฉบัง มาดักคราบน้ำมันในทะเล เพื่อไม่ให้ซึมสู่ชายหาดมากไปกว่านี้ และแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ซึ่งพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังจากนี้ เริ่มตั้งแต่ อ.กุยบุรี อ.ปราณบุรี ต่อไปถึง อ.บ่อนอก จนไปถึงพื้นที่เขตจ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าคราบน้ำมันไม่หมดไปก่อน ปัญหาที่จะได้รับผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนคือ ด้านการท่องเที่ยว ส่วนปัญหาที่หัวหินนั้น ถือว่าค่อนข้างหนัก เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อีกอย่างหนึ่งคราบน้ำมันจะสามารถพบเห็นได้ตอนน้ำลง ซึ่งหากจะเข้ากำจัดคราบน้ำมันต้องทำในช่วงบ่ายของวันไปแล้ว เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา เร่งกำจัดคราบน้ำมันต้องทำทุกวัน จนกว่าน้ำมันจะหมดจริง ต้องช่วยกันกำจัดเป็นระยะทางไกล โดยขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย วิธีกำจัดก็ต้องแซะทรายออกไป เน้นทำตอนน้ำลงจะเจอคราบชัดเจน
บินสำรวจทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าคราบน้ำมันจะหมดหรือยัง การกำจัดในทะเลทำได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้สารเคมีเพราะมันอยู่ในเขตน้ำตื้นมากแล้ว เดี๋ยวจะเป็นปัญหาสะสม นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศอธิบายภาพถ่ายดาวเทียมว่าบริเวณจุดเริ่มต้นของคราบน้ำมันมีลักษณะคล้ายเรือหรือสิ่งปลูกสร้างในทะเลที่มีจำนวนมากขณะนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจแล้ว
+++ส่วนที่มีประชุมคณะ กรรมการบริษัท ทีโอที หรือ บอร์ดทีโอที เพื่อหารือข้อสรุป ว่าจะยื่นฟ้องศาลเพื่อคัดค้าน กสทช.ที่นำคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ไปประมูลวันที่ 12 พ.ย.นี้หรือไม่
++++สัญญาเช่าช่วงคลื่น 1 ปณ. กับ กสทช. ไปทำคลื่นข่าว ของสปริงนิวส์ จ่ายค่าตอบแทนเดือนละ 2.46 ล้านท่าจะต้องเคลียร์กันเอง หลังน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ระบุว่า เห็นข่าวช่องสปริงนิวส์ปลดพนักงานฟ้าผ่านับครึ่งร้อยว่าตกใจแล้ว ตกใจยิ่งกว่า เมื่อเห็นแถลงการณ์คณะผู้บริหารแจ้งว่าจะรุกสื่อทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะวิทยุ เอฟ.เอ็ม. 98.5 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งคือสถานีวิทยุ 1 ปณ. ของสำนักงาน กสทช. ที่ควรต้องคืนคลื่นความถี่มาจัดสรรใหม่นั่นเอง งานนี้ไม่รู้ว่า แถลงการณ์พิมพ์ผิด หรือสปริงนิวส์ได้ทำวิทยุ 1 ปณ. เอฟเอ็ม 98.5 เมกะเฮิร์ตซ์ จริงๆ เพราะที่ผ่านมา สายงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ยังไม่เคยมีมติจัดสรรคลื่นความถี่เอฟเอ็มให้ใครเลย ด้านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Peerawat_KPP ได้มีการเผยแพร่เอกสารถึง น.ส.สุภิญญา โดยเป็นหนังสือจากสำนักงาน กสทช. ลงวันที่ 25 ก.ย. 2558 เรื่อง การขอแบ่งเวลาเพื่อดำเนินการและรับจ้างผลิตรายการเพื่อออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ลงนามโดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลจาธิการ กสทช.
+++ นายปรีดา ปากลาว ผู้ต้องหาที่ยิงเจ้าไข่ดำ กระทิงป่าหลงฝูงมาจากอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาย เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ต.สมพร ดีดวง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จ.กระบี่ แล้ว พร้อมนำอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 9 จำนวน 2 ปลอก ที่ใช้ ก่อเหตุ ไปมอบให้กับตำรวจด้วย รับสารภาพว่า ขณะออกล่าสัตว์ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 ต.ค. มองเห็นสัตว์คล้ายเลียงผาในความมืดเห็นเฉพาะดวงตา จึงยิงใส่ไปสองนัด ไม่คิดว่าเป็นกระทิง เมื่อทราบว่า เป็นวัวกระทิง จึงไปขอให้เพื่อนบ้านมาเคลื่อนย้าย ออกจากพื้นที่เพื่อหนีความผิด ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากทราบว่า เป็นวัวกระทิงก็จะไม่ยิงอย่างแน่นอน
+++ด้าน ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปดูการทำแผนจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านต่างไม่พอใจที่นายปรีดาไปยิงกระทิงที่ชาวบ้านหวงแหน เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งทำแผนรีบนำตัวขึ้นรถไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ. ปลายพระยา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 (กระทิง หรือเมย) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา