พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ1ชั่วโมง30นาที หลังการประชุมพล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.714/ 2558ลงวันที่29ต.ค.2558คือ นายศุกร์โข ตามเสรี อายุ 32 ปี ในข้อกล่าวหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง" โดยพฤติการณ์เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่28ต.ค.ที่ผ่านมา คือเมื่อวันที่23ต.ค.58เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .380จากบ้านพักของผู้ต้องหา สถานที่เกิดเหตุที่ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.
แต่ในขณะนี้ยังไม่พบความผิดข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา112อย่างไรก็ตามหากสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ม.112ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
ส่วนความเกี่ยวข้องของ นายศุกร์โข กับผู้ต้องหาทั้ง3คนก่อนหน้านี้ พบว่าอยู่ในขบวนการเดียวกัน รรท.รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวทั้ง3คน คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อดีตสารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาร์ต คนสนิทหมอหยองว่า ที่ประชุมนั้นตนได้เร่งรัดให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112ให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาในขบวนการที่มีกับบริษัทต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวอีกด้วย หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถระบุจำนวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ยืนยันว่าต้องมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกแน่
สำหรับนายศุกร์โข ตามเสรี หรือนายเค นั้น มีอาชีพทำงานอยู่ในบาร์โฮสต์ และขายรถมือสอง เป็นหนึ่งในคนสนิทของ พ.ต.ต.ปรากรม สอบถามเบื้องต้น นายศุกร์โข ยอมรับว่า รู้จักกับ พ.ต.ต.ปรากรม มานานแล้ว ก่อนที่จะมีการชักชวนให้ไปช่วยทำงานในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. โดยวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน 4 ชั้น ได้ขึ้นไปพร้อมกับ พ.ต.ต.ปรากรม จากนั้น พ.ต.ต.ปรากรมได้เอาเงินสดประมาณ 10,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำ มีพระเลี่ยมทอง 2-3 องค์ มาให้ แต่หลังเสร็จงานก็ได้มอบคืนให้กับ พ.ต.ต.ปรากรม ไปหมดแล้ว แต่ในวันดังกล่าวยังได้ยกเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่บ้าน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มาวางไว้ในรถของ พ.ต.ต.ปรากรม และไม่ทราบว่าถูกนำไปเก็บไว้ที่ใด และทุกครั้งจะเดินทางไปพร้อมกับ พ.ต.ต.ปรากรม โดยเดินทางไปที่บ้านแม่ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และบ้านหลังเก่าที่มีตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งนายศุกร์โข ทำหน้าที่ขับรถและถ่ายภาพให้กับ พ.ต.ต.ปรากรม ทั้งนี้ยังได้ยืนยันว่า ทรัพย์สินบางชิ้นที่ตำรวจยึดมาได้จาก พ.ต.ต.ปรากรม นั้น เป็นทรัพย์สินที่เอามาจากบ้านของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
และช่วงเช้าวันนี้ ชุดคลี่คลายคดีได้เดินทางไปที่คอนโดลาเมซอง ภายใน ซ.พหลโยธิน 24 เพื่อทำการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของกลางจำนวน กว่า 30 คัน ที่ตรวจยึดได้หลังจากที่ขยายผลจับกุมตัว พ.ต.ต.ปรากรม เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11)