*รอบวัน:ทูตสหรัฐพบนายกฯไม่กดดัน/อนุมัติหมายจับศุกร์โข/หุ้นไทยดิ่ง19จุด

29 ตุลาคม 2558, 17:48น.


สรุปข่าว 19.35น.



+++หลังจากที่นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสที่เดินทางเข้ามารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยคนใหม่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเข้าพบในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเป็นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งสหรัฐ กล่าวว่าไม่ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรไทยก็ยังคงเป็นมหามิตรของอเมริกาเช่นที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐฯจะไม่กดดันว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นสำเร็จได้เมื่อไหร่ เพราะมองว่าเป็นปัญหาภายในที่ไทยจะต้องแก้ไขเอง และเชื่อในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดและเชื่อมั่นในความตั้งใจและความจริงใจของนายกรัฐมนตรี พร้อมแนะนำให้นายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็น เช่น การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการเสนอแนะ นายกรัฐมนตรีในเชิงสร้างสรรค์ไม่ใช่การเข้ามาแทรกแซงแต่อย่างใด



+++ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงสาเหตุปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และให้ทางทูตฯสหรัฐฯ.ไปรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกภาคส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทย รวมถึงยังชี้แจงในการกำหนดกฏกติกาในการใช้มาตรา 44  และการประกาศใช้กฏอัยการศึก ว่า การใช้ดังกล่าวเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้สร้างความเดือดร้อน และที่ผ่านมาการใช้กระบวนยุติธรรมของไทยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน พยาน และข้อเท็จจริง



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชี้แจงแนวทางการเลือกตั้งรูปแบบใหม่ที่จะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่เรียกว่า ระบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อต้องการให้ทุกคะแนนเสียงของประชาชนเป็นเสียงสวรรค์ ไม่ให้คะแนนถูกทิ้งเปล่า หรือหายไป เป็นการเคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ยืนยันวิธีนี้ไม่ทำให้พรรคใดได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ และเพิ่มพื้นที่ให้พรรคเล็กได้มีโอกาสให้เข้ามามีที่นั่งได้มากขึ้น รวมทั้งจะทำให้การนับคะแนนง่ายขึ้นด้วย ที่สำคัญจะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น เพราะจะต้องออกมาช่วย ส.ส.เขตหาเสียง ย้ำอีกว่า กรธ.ไม่มีแนวคิดตัดสิทธิผู้สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต หากคะแนนต่ำกว่าคะแนนโหวตโน (VOTE NO) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะให้ลงรับสมัครรับเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในการเลือกตั้งซ่อม หรือให้รอลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยถัดไป ส่วนการพิจารณาให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลืองนั้น กรธ.ตั้งใจให้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้พิจารณา ขณะที่ใบแดง จะให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเป็นผู้วินิจฉัย



+++ การเร่งรัดคดีจำนำข้าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึง ผลสอบของคณะกรรมการชุดกระทรวงการคลัง ในคดีจำนำข้าว ว่า ได้ส่งมาบางส่วนแล้วและคณะกรรมการได้ขอขยายเวลาให้พยานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม จากเดิมมีกำหนดถึงวันที่ 30 ตุลาคม แต่ผู้ถูกกล่าวหา ขอเพิ่มเติมพยาน จึงต้องขยายเวลาให้  แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เดินทางมาให้ข้อมูล



+++สำหรับผลสอบของคณะกรรมการชุดกระทรวงพาณิชย์ จะส่งไปให้กรรมการชุดที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน ไม่จำเป็นต้องรอผลสอบของกระทรวงการคลัง  การดำเนินการดังกล่าวมีเหตุผล เพราะคดีมีอายุความกำหนดไว้ ต้องทำภายใน 2 ปี ไม่เร่งทำคงไม่ได้  ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งเพราะต้องเดินไปตามเวลาที่กำหนด  และกำชับให้เกิดความเป็นธรรม จึงขยายเวลาการรับฟังพยาน จนเกือบเป็นที่พอใจของผู้ถูกกล่าวหา กรณี กระทรวงพาณิชย์  จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับเอกชนอีกหลายราย ในกรณีขายข้าวจีทูจี แต่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเอกชนมีอายุความสั้นเพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งจะหมดอายุความในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559  แต่จนถึงวันนี้ยังดำเนินการอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอผลของเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดเสียก่อน จึงจะได้นำมาคิดกับความรับผิดของเอกชน  จึงจำเป็นต้องเร่งทำเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เสร็จก่อน  จะนำไปฟ้องเอกชนแต่สำหรับกรณีของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเอกชน



+++พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ1ชั่วโมง30นาที หลังการประชุมพล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.714/ 2558ลงวันที่29ต.ค.2558คือ นายศุกร์โข ตามเสรี อายุ 32 ปี ในข้อกล่าวหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง" โดยพฤติการณ์เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่28ต.ค.หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .380จากบ้านพักของผู้ต้องหา สถานที่เกิดเหตุที่ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. แต่ในขณะนี้ยังไม่พบความผิดข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา112อย่างไรก็ตามหากสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ม.112ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย



สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาในขบวนการที่มีกับบริษัทต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวอีกด้วย หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ไม่สามารถระบุจำนวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ยืนยันว่าต้องมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกแน่



+++หลังสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ออกมาเปิดเผยว่าคณะทำงานของเขาถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ซ้ำเขายังถูกย้ายไปปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสมือนถูกลงโทษ ทำให้เกรงว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัยนั้น สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยบทสัมภาษณ์ พลตำรวจตรีปวีณ ยืนยันว่าการทำคดีของคณะทำงานที่มีทั้งฝ่ายตำรวจร่วมกับอัยการ ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ แต่สิ่งที่ได้รับคือถูกย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ดังนั้นในวันที่ 30 ตุลาคม  ซึ่งเป็นวันที่ต้องไปรายงานตัวกับทาง ศชต. คงโทรศัพท์ไปรายงานตัวกับผู้บัญชาการ ศชต. ก่อน และจะไปราชการต่อในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน เพื่อเข้าไปชี้แจงคดีค้ามนษย์โรฮิงญากับคณะกรรมการ หลังจากนั้นคงต้องดูต่อไปว่าทางผู้บังคับบัญชาจะเห็นใจพิจารณาแก้ไขการโยกย้ายให้ลงไปปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้ความเป็นธรรมหรือไม่ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือการดูแลในเรื่องความปลอดภัยที่ดีพอ ทางเลือกสุดท้ายอาจจะต้องลาออกจากราชการเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง



+++บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ปฎิเสธข้อกล่าวหา ที่ปรากฎเป็นข่าวว่า บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) มีส่วนร่วมในการตั้งสถานีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และขอสนับสนุนหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช. พร้อมชี้แจง บริษัทได้รับการร้องขอความอนุเคราะห์จากกองตำรวจสื่อสารสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ลงวันที่ 16 กรกฏาคม 2558 ย้ายอุปกรณ์ระบบวิทยุ DTRS จากสถานีตำรวจนครบาลบึ่งกุ่ม มาติดตั้งบนอาคารใบหยกทาวเวอร์ 2 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมจักรยานเทิดพระเกียรติ (Bike for MOM) เพื่อทำให้การรับส่งสัญญาณวิทยุ DTRS มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น   จึงขอยืนยันว่าบริษัทมิได้ทำการใดๆ นอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมาย และไม่ได้กระทำการใดๆ ที่เป็นความผิดทางกฎหมายทุกประการ 



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,390.04 จุด ลดลง 19.22 จุดมูลค่าการซื้อขาย 52,619.65 ล้านบาทลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดย ความเชื่อมั่น การลงทุนแย่ลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธ.ค.ปีนี้



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนช่วยหนุนแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบางกลุ่ม สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพิ่มขึ้น  32.69 จุด  ที่ 18,935.71 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน



+++ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มองเศรษฐกิจจีนในมุมบวก ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนเยอรมนี เพิ่มขึ้น  12.12 จุด  ปิดที่ 3,387.32 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลง 136.63 จุด ที่ 22,819.94 จุด



+++นายไมเคิล คีแนน รัฐมนตรียุติธรรมออสเตรเลีย เชิญชวนประชาชนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมวันเยี่ยมชมมัสยิดแห่งชาติสิ้นเดือนนี้ เพื่อทลายกำแพงทางสังคมและเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การณรงค์วันเยี่ยมชมมัสยิดแห่งชาติ 31 ตุลาคมที่รัฐบาลจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วว่า การเข้าใจและยอมรับศาสนาอื่นคือสิ่งสำคัญที่จะรักษารากเหง้าออสเตรเลียในฐานะแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรม การสร้างความสมานฉันท์ในสังคมจะเกิดขึ้นได้



+++ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะเยือนเวียดนามในสัปดาห์หน้าท่ามกลางความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ นายสีจะเดินทางเยือนเวียดนามระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 6-7 พฤศจิกายน การเยือนของผู้นำจีนมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด ภายหลังสหรัฐส่งเรือรบเข้าไปพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเกาะของจีนในทะเลจีนใต้ 12 ไมล์ทะเล นับเป็นการท้าทายต่อความพยายามในการอ้างสิทธิ์ครอบครองของจีน เมื่อปีที่แล้วจีนได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในพื้นที่ที่เวียดนามอ้างว่าเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของตนเองและอยู่บริเวณไหล่ทวีป ห่างจากชายฝั่ง 120 ไมล์ทะเล ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน จีนอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ เช่นเดียวกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน

ข่าวทั้งหมด

X