+++พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์ สั่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ คณะทำงานจะประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด ทหารในพื้นที่ ผู้นำชุมชน และตัวแทนชาวบ้าน ศูนย์เตรียมส่งทีมงานลงเอกซเรย์พื้นที่และประชากรประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน เบื้องต้นทราบว่า พล.ต.อ.อดุลย์ จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองในวันที่ 12-13 พฤศจิกายน เพื่อนั่งหัวโต๊ะประชุมศูนย์พร้อมรับฟังความเห็น และพูดคุยกับชาวบ้านให้เข้าใจ ก่อนกำหนดเป็นแนวทางแก้ปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวง พม.กำลังยกร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอำนวยการแก้ปัญหาภูทับเบิก ซึ่งจะเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมมาเป็นประธาน เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งคณะอำนวยการนี้จะเป็นระดับนโยบายที่จะมีรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นรองประธาน
+++นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง อดีตผู้อำนวยการกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 2 ผู้ถูกกล่าวหาตามคดีอาญาที่ 1436/2557 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา พร้อมทนายความเดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ เพื่อฟังคำสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ โดยอัยการแจ้งว่าการพิจารณาสำนวนคดียังไม่เสร็จสิ้น และให้มารายงานตัวครั้งที่ 8 ในวันที่ 9 ธันวาคม คดีนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 เวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดและพวกรวม 5 คน ได้ร่วมกันหมิ่นประมาท นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะ ด้วยแผ่นป้ายไวนิลทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและบุกรุกสถานที่ราชการ ที่บริเวณหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มดังกล่าว ประกอบด้วย นายศรรักษ์ มาลัยทอง หรือนายมาลัยรักษ์ ทองชัย นาย ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง นายชาญ ไชยยะ และนายผัน โพธิ์ทอง ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่ในประเทศเพียง 3 คน ได้แก่ นายศรรักษ์ ถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำในจังหวัดปทุมธานี นายสมศักดิ์และนายชินวัตร ที่เหลือได้หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้าแล้ว
+++น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะโตได้ ร้อยละ 2.8 ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ประเมินว่าจะขยายตัว ร้อยละ 3 เป็นผลจากการส่งออกติดลบร้อยละ 5.4 มากกว่าที่ สศค.ประเมินไว้ว่าจะติดลบร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทย ยังได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายของภาครัฐ และนักท่องเที่ยวขยายตัวสูงเกินกว่าที่คาดไว้
+++สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2559 สศค.คาดว่าจะมีอัตราเติบโตร้อยละ 3.8 ส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.2 โดยได้รับแรงส่งจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มขยายตัวดีขึ้นประกอบกับค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า รวมถึงการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงการรัฐได้ ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาภัยแล้ง
+++คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สัมมนาเรื่อง เหลียวหลัง แลหน้า เศรษฐกิจสังคมไทย ในวาระ 100 ปี อ.ป๋วย โดยมี ศ.อัมมาร สยามวาลา ปาฐกถาพิเศษ ที่ห้องประชุม ศ.สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์ฯ
+++พลเอกประวิตร ประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) จากนั้นเป็นประธานประขุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 8/2558 ณ อาคารรับรองเกษะโกมล
+++วันนี้ตามต่อเรื่องหุ้น เมื่อวานนี้หุ้นไทยปิดตลาด1,409.26 จุด ลดลง 14.79 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,825 ล้านบาท นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยลงแรงกว่าที่คิด โดยหุ้นขนาดใหญ่ต่างปรับตัวลง หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นไปเร็วในช่วงก่อนหน้านี้ จึงคาดไว้ก่อนแล้วว่าตลาดน่าจะมีการพักฐาน เพียงแต่วันนี้พักฐานแรง และแรงซื้อก็น้อยลง เนื่องจาก นักลงทุนต่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน ขณะที่ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ รอติดตามผลประชุมเฟดก่อน ถ้าเฟดไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดฯก็น่าจะฟื้นตัวได้
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,779.52 จุด พุ่งขึ้น 198.09 จุด ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 5,095.69 จุด เพิ่มขึ้น 65.54 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,090.35 จุด เพิ่มขึ้น 24.46 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังเฟด ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงร้อยละ 0-0.25 ต่อไป ส่วนในการประชุมเดือนธ.ค. จะเป็นเวลาที่เฟดจะทำการพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยเฟดจะประเมินความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ต่อการบรรลุเป้าหมายของการจ้างงานที่ระดับสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับร้อยละ 2
+++น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,176.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผย หลังลงพื้นที่ตรวจการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่คลองโอ่งอ่างหรือสะพานเหล็กว่า กทม. ได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่คลองโอ่งอ่างมาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. โดยขณะนี้สามารถรื้อถอนไปแล้วกว่าร้อยละ 33 คือประมาณ 169 คูหา เหลือพื้นที่ต้องเร่งรื้อถอนอีกประมาณกว่า 300 คูหา กำหนดการรื้อถอนให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้ เพื่อดำเนินการปรับภูมิทัศน์คลองในส่วนอื่น ๆ ต่อไปทั้งนี้พื้นที่บริเวณสะพานเหล็กเป็นพื้นที่ไม่มั่นคงเนื่องจากมีการสร้างต่อเติมไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมอีกทั้งการต่อไฟฟ้าเข้าพื้นที่เป็นการต่ออย่างไม่ถูกต้อง จึงหวั่นเกรงว่าอาจเกิดอันตรายต่อประชาชนและผู้ค้าในพื้นที่ได้ กทม.ประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ให้ดำเนินการตัดไฟฟ้าในพื้นที่โดยจะเริ่มดำเนินการในเวลา 06.00 น. วันที่ 29 ต.ค. หวังอยากให้พื้นที่สะพานเหล็กได้รับการปรับปรุงให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์โดยเร็ว
CR:เจ้าหน้าที่ป่าไม้