นายเจมส์ อัลลัน ผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อม ของบริษัทวิจัยเวริสค์ เมเปิลครอฟท์ ที่ปรึกษาความเสี่ยงในอังกฤษ ระบุว่าอุณหภูมิและความชื้นสูงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจะทำให้เกิดภาวะเครียดจากอากาศร้อนมากขึ้น เสี่ยงทำให้ผลิตภาพของแรงงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดมากถึงร้อยละ 16 ในอีก 30 ปีข้างหน้า เพิ่มเติมว่า ผลเสียจากภาวะเครียดจากอากาศร้อนจะทำให้แรงงานบางส่วนขาดงานเป็นประจำเนื่องจากอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย อาการคลื่นไส้และในรายรุนแรงมาก อาจจะถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากกระทบต่อการผลิตของประชาชาติโดยรวมแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของแรงงาน
บริษัทฯประเมินว่า ผลิตภาพของแรงงานในสิงคโปร์และมาเลเซียจะลดลงร้อยละ 25 และร้อยละ 24 จากระดับปัจจุบัน อินโดนีเซียอาจจะมีผลิตภาพลดลงร้อยละ 21 ขณะที่กัมพูชาและฟิลิปปินส์จะลดร้อยละ 16 ส่วนประเทศไทยและเวียดนามจะลดลงร้อยละ 12 บริษัทฯใช้คาดการณ์เรื่องสภาพอากาศร้อนเพื่อคำนวณการลดลงในด้านการผลิตของแรงงาน ใช้ข้อสมมุติฐานเรื่องภาวะเครียดจากอากาศร้อนจัดถึงขนาดที่คนงานต้องลาป่วยเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คาดการณ์ว่า ภายในปี 2588 ตัวเลขที่แรงงานเครียดจากอากาศร้อนจัดในสิงคโปร์และมาเลเซียจะเพิ่มเป็น 364 วันจากเดิม 335 และ 338 วัน ตามลำดับ ส่วนในอินโดนีเซีย จะเพิ่มเป็น 355 วันจาก 303 วัน และจะเพิ่มเป็น 337 วันเป็น 276 วันในฟิลิปปินส์
บริษัทฯทำการคำนวณการลดของผลิตภาพแรงงานใน 1,300 เมือง พบว่า 45 ใน 50 เมืองเสี่ยงได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์และจาการ์ตา ขณะที่ 20 ใน 50 เมืองที่เสี่ยงกระทบหนักที่สุดอยู่ในมาเลเซีย 13 เมืองในอินโดนีเซีย 4 เมืองในฟิลิปปินส์และ 3 เมืองในประเทศไทย/17.38 น.