*รอบวัน:สตช.พร้อมแถลงคดีหมิ่นสถาบัน/หารือแก้ปัญหาหนี้สินเกษตร*

+++บ่ายนี้ ติดตามการแถลงเรื่องสำคัญคดีแอบอ้างสถาบัน นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนของคดีทั้งพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีแอบอ้างเบื้องสูง และพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) บ่ายนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องติดตาม ประเด็นทั้งบุคคลที่คาดว่าจะร่วมในขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา เพื่อขยายผลการเชื่อมโยง  ความคืบหน้าการยึดทรัพย์  ข่าวความชัดเจนการลาออกจากตำแหน่งของพล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ มีการเตรียมสถานที่แล้ว มีการเตรียมโต๊ะแถลง คาดว่าจะมีการนำของกลางมาชี้แจงแถลงด้วย พร้อมแผนผังประกอบรายละเอียดด้วย

+++พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ. ตร เปิดเผยความคืบหน้าคดีปิดล้อม สภ. ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดยมีการออกหมายจับไปแล้ว 66 คน หมายซึ่ง เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะ การปิดถนน การทำลายทรัพย์สินของทางราชการและการทำผิดกฎหมายอื่นๆ ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ จำนวน 4 นาย ขณะนี้ยังช่วยราชการอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค 8

+++การเคลื่อนไหวกลุ่มเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมด้วยกลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย นำโดยนางปิ่นแก้ว แก้วสุขแท้ นายยศวัจน์ ชัยวัฒนะศิริกุล นายชนินท์ ดวงดารา เดินทางเพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  แกนนำ ระบุว่า จะชุมนุมต่อเนื่อง จนกว่าจะได้รับการแก้ไขหนี้สินและเกษตรกรจำนวนมากกำลังเดือดร้อนเพราะถูกธนาคารฟ้องยึดทรัพย์ รวมทั้งมีหนี้เพิ่มขึ้นจากที่ประสบปัญหาภัยแล้งไม่สามารถทำนาทำการเกษตรมาตลอดช่วง3 ปีนี้โดยรัฐบาลไม่มีการช่วยเหลือ  พล.ท.บุญธรรม โอริส ผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูป หรือศปป.ได้เข้าเจรจากับแกนนำ ทั้งนี้ได้ให้ตัวแทนเกษตรกรประมาณ 40 คนเข้าร่วมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เวลา 13.30 น.ที่กระทรวงเกษตรฯ โดย มี พล.ท.บุญธรรม เป็นประธาน

+++นางพรนภัส ชาติเผือก เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค Thai Anti Scam (สาวไทยรู้ทันกลลวง) นำกลุ่มหญิงผู้เสียหาย 9 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังถูกชาวต่างชาติเข้ามาตีสนิทผ่านสังคมออนไลน์ แล้วหลอกให้โอนเงินตั้งแต่ 60,000 -23 ล้านบาท รวมมูลค่าเสียหาย 29 ล้านบาท นางพรนภัส กล่าวว่า เปิดเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวมานาน 4 ปี เพื่อแจ้งเตือนหญิงไทยระวังจะถูกชาวต่างชาติหลอกลวงในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเฟสบุ๊ค ปัจจุบันมีผู้เสียหายร้องเรียนมายังเพจวันละกว่า 20 คน ส่วนใหญ่ถูกชาวต่างชาติซึ่งเป็นชาวไนจีเรีย อ้างตัวเป็นชาวอังกฤษมีฐานะดี และใช้ภาพชายหน้าตาดีมาตีสนิททางเฟสบุ๊ค หากเหยื่อมีปัญหาด้านการเงิน ก็หลอกว่าจะโอนเงินมาช่วยเหลือหรือส่งของมีค่ามาให้ แต่ผู้เสียหายต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการขนส่ง หากเหยื่อมีฐานะก็จะหลอกให้ร่วมลงทุน เช่น ซื้อขายทองคำ จากการตรวจสอบพบมีหญิงไทยร่วมขบวนการทำหน้าที่เปิดบัญชีรับโอนเงินด้วย จึงขอเตือนหญิงไทยหากมีชาวต่างชาติมาตีสนิทให้ตรวจสอบประวัติหรือไอพีแอดเดรสที่อยู่ว่าจริงหรือไม่ หากมีการพูดคุยถึงเรื่องเงินหรือการลงทุน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจถูกหลอกลวงได้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม รับเรื่องไว้พร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย ไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

+++เช้านี้ มีการทำความสะอาดคราบน้ำมันชายหาดหัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์  นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี รักษาการอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวถึงแผนแก้ปัญหาคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหัวหิน-ชายหาดเขาตะเกียบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่บริษัท เอสจีเอส ประเทศไทย ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดินบริเวณเขาตะเกียบและหาดชะอำ ร่วมกับพลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้ได้นำส่งก้อนน้ำมันไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการ ประเทศเบลเยี่ยม คาดว่าใช้เวลาอีก 4-6 สัปดาห์ จึงจะรู้ผล จากนั้นจะนำผลวิเคราะห์มาเปรียบเทียบเอกลักษณ์ลายพิมพ์นิ้วมือกับน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตในอ่าวไทย เพื่อพิสูจน์ว่ามาจากแหล่งผลิตในอ่าวไทยหรือไม่ หากเป็นเพราะการดำเนินงานของแหล่งผลิตในอ่าวไทยจริง ก็พร้อมที่จะชดเชยค่าเสียหายต่อไป

+++จากการตรวจสอบและสำรวจข้อมูลด้านการผลิตปิโตรเลียมของบริษัทผู้รับสัมปทานในอ่าวไทย ทั้งการขุดเจาะ การผลิต และการขนถ่ายเพื่อซื้อขายจากเรือกักเก็บน้ำมันดิบ ไม่พบเหตุน้ำมันรั่ว คาดว่าหากไม่มีก้อนน้ำมันดินเพิ่มเติม จะสามารถทำความสะอาดได้เรียบร้อยภายในวันนี้ โดยจากการสังเกตการณ์บริเวณหาดชะอำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่พบคราบน้ำมันเพิ่มเติม และประชาชนสามารถลงไปใช้ชายหาดได้แล้ว

+++กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดจากการลักลอบปล่อยน้ำมันลงสู่ทะเล จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า ขึ้นมาตรวจสอบก่อนเพื่อหาข้อสรุป

CR:เทศบาลเมืองหัวหิน