+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประชุมร่วมกับคสช. คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ห้องประชุมรัฐสภา หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกฯ แถลงผลการประชุม ป็นครั้งแรกของสมาชิกทั้งหมดกว่า 700 คน ที่จะประชุมร่วมกัน และได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมรับฟังด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จะชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาล ที่ต้องการให้ทุกองค์กรขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ตามโรดแมป ดังนั้น การทำงานจะต้องปรับให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และจะเปิดให้ซักถามและสะท้อนปัญหาอุปสรรคการทำงานของแต่ละฝ่าย เน้นการทำงานของแม่น้ำแต่ละสาย เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้เกิดความชัดเจนและส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไป นายกฯ ระบุว่า จะชี้แจงแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่ดำเนินการไปแล้วที่จะดำเนินการต่อไปในการปฏิรูป และจะรับฟังความคิดเห็นในการทำงานของแต่ละฝ่าย โดยจะไม่ปิดกั้นความคิด หรือแทรกแซงการทำงานของแม่น้ำแต่ละสาย แต่จะวางกรอบการทำงานให้ตรงกัน
+++มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งสนช.เพิ่มอีก 3 คน ประกอบด้วย พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก พัลลภ ตมิศานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ และ พลตํารวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม
+++แนวทางการร่างรัฐธรรมนูญ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. เปิดเผยถึง แนวคิดของกรธ.เรื่องระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ด้วยวิธีการคิดคะแนนเลือกตั้ง ด้วยการนำคะแนนของผู้ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งของ ส.ส.แบบแบ่งเขต เพื่อมาคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่ายังเป็นเพียงแนวคิดของ กรธ.ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยรูปแบบการเลือกตั้งแบบนี้ กรธ.คิดจากรูปแบบการเลือกตั้งจากทั่วโลก ดูข้อดีข้อเสียพร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่าย รวมทั้งพิจารณาข้อเสนอของ นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีความเป็นห่วงว่าระบบนี้จะตัดตอนพรรคการเมืองใหญ่ และทำให้เกิดรัฐบาลผสมหลายพรรค จนนำไปสู่การมีนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะต้องนำไปหารือกันอีกครั้ง เพราะใน กรธ.มี อดีต กกต.ร่วมอยู่หลายคน ที่จะสามารถชี้ข้อดีข้อเสียได้
+++นายกฯ เตือนคนเสื้อแดง นัดใส่เสื้อแดง 1 พ.ย. อย่าให้เกิดความวุ่นวาย ไม่เช่นนั้นแกนนำต้องรับผิดชอบ ฝากเตือนทุกกลุ่ม อย่าละเมิดหรือขัดคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ การจะทำอะไรก็ขออย่าทำผิดกฎหมาย หรือไปละเมิดคนอื่น หากทำก็ต้องดำเนินคดี นายกฯ ระบุว่า การปรองดองที่ระบุนั้นคือในช่วงปี 2559 คดีที่เกี่ยวข้องต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดและนำผลมาพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อ นั่นคือการเริ่มต้นกระบวนการปรองดอง ส่วนคดีทุจริตปรองดองไม่ได้ ถ้าคดีทุจริตก็เป็นคดีทุจริตถือว่าเป็นคนละเรื่อง ปรองดองคือเรื่องของความขัดแย้งไม่ใช่หรือ คดีมีจำนวนมาก ได้ประสานกับอัยการสูงสุดไปแล้วว่าให้ช่วยมาดูด้วยเพื่อเร่งรัดให้เร็วขึ้น
+++การเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ของนายเกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย นายวิษณุ ได้ชี้แจงเรื่องโรดแมปของไทย ยืนยันว่าอีก 20 เดือนคือช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2560 จะมีการเลือกตั้งในประเทศไทย นอกจากนั้นได้พูดคุยถึงมาตรการที่จะเดินหน้าร่วมกัน ทั้งการต่อต้านการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และให้ไทยเป็นศูนย์กลางกฎหมายระหว่างประเทศ ที่จะต้องร่วมมือกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในความร่วมมือหลายมิติ และวันพรุ่งนี้ จะเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ
+++14.00 น.ติดตามการแถลงของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ถึงความคืบหน้าของคดีแอบอ้างเบื้องสูงตามมาตรา 112 และความชัดเจนเรื่องข่าวการลาออกจากราชการของพล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กล่าวว่า วันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และคณะทำงานคดีหมิ่นสถาบัน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 จะแถลงสรุปรายละเอียดของคดี ที่มีนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พร้อมพวกเป็นผู้ต้องหาในคดี ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้จะไม่มีการลงลึกรายละเอียดในบางพฤติกรรม แต่จะเป็นการชี้ให้สังคมได้เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงในการเรียกรับผลประโยชน์จริง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งบุคคลใด ซึ่งการแถลงข่าวในวันนี้ จะทำให้สังคมได้รับรู้ว่าขบวนการนี้ มีการแอบอ้างสถาบันไปในทางไม่เหมาะสม ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และมีนายตำรวจระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ให้รอฟังรายละเอียด ส่วนการอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาจะไม่นำมาเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นการทำงานของคณะกรรมการร่วม
+++สำนวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร พนักงานสอบสวนจาก 4 สน. ได้แก่ สน.ลุมพินี สน.ยานนาวา สน.หนองจอก และสน.มีนบุรี ได้นำเอกสารสำนวนกว่า 40 แฟ้ม จำนวนกว่า 10,000 หน้า จำนวน 1,500 สำนวน ยื่นต่อ พล.ต.วิทยา พ่วงพันธุ์งาม หัวหน้าอัยการทหาร คดีดังกล่าวมีนายบิลาน มูฮัมหมัด หรือ อาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตราย แก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น รวมถึงมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้อยู่ไว้ในครอบครองได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างฝากขังผัดที่ 5 ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พันร.มทบ.11) เบื้องต้นอัยการทหาร นัดพนักงานสอบสวนเข้ามาชี้แจงทุกวัน โดยอัยการทหาร กำชับมา 2 เรื่อง การสืบพยานต้องต่อเนื่อง โดยให้เจ้าหน้าที่คุมตัวพยาน นำตัวพยานมาสืบให้ได้ตามที่อัยการทหารสั่ง และอัยการทหาร ได้กำชับให้ใช้ล่ามคนเดิมที่ใช้มาก่อนหน้านี้ ส่วนจะนำตัวผู้ต้องหามาศาลทหารกรุงเทพด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอัยการทหารสั่ง
+++การประชุมสนช.พรุ่งนี้ มีวาระการแถลงเปิดสำนวนถอดถอน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งสำนวนชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติ จากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน บ้านเลขที่ 5/5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ตั้งแต่ปี 2541 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมีการก่อสร้างต่อเนื่องในขณะที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยปลูกสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2554 ซึ่งมีมูลค่า 16 ล้านบาทเศษ ที่ประชุมจะเปิดโอกาสให้ตัวแทนฝ่าย ป.ป.ช.เป็นผู้แถลงเปิดสำนวน จากนั้นนายสมศักดิ์จะเป็นผู้แถลงคัดค้านการเปิดแถลงสำนวน ภายหลังจากคู่กรณีได้ชี้แจงเสร็จสิ้น ที่ประชุมจะตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม 1 คณะ เพื่อทำหน้าที่รวบรวมประเด็นคำถามจากสมาชิกเพื่อใช้ถามคู่กรณีในการประชุมครั้งถัดไป
+++กลุ่มกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร ชุมนุมเรียกร้องติดตามผลการแก้ปัญหา ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถ.ราชดำเนิน หลังจากที่เดินทางมายื่นหนังสือแล้ว เรื่องแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร