การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม และมีข้อสรุปว่า การระบายข้าว โดยเฉพาะข้าวที่มีความเสียหายจะต้องมีความชัดเจน และไม่กระทบต่อราคาข้าวในตลาด โดยในส่วนของข้าวที่เสียหายจะทดลองระบายไปให้อุตสาหกรรมที่มีความต้องการต่อไป นอกจากนี้จะต้องลดพื้นที่ปลูกข้าว โดยเปลี่ยนไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยที่ตลาดมีความต้องการ ร่วมกับการเปิดตลาดใหม่
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการตรวจสอบคุณภาพข้าวในโกดังทั่วประเทศซึ่งมีการตรวจสอบไปแล้วกว่าร้อยละ 95 พบว่าจากข้าวของรัฐบาลมีอยู่ประมาณ 13 ล้านตันเศษ โดยเป็นข้าวเกรดซีซึ่งไม่สามารถแยกได้ คือไม่สามารถนำไปให้สัตว์หรือคนบริโภคได้ทั้งสิ้น 2 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าการระบายให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมจะเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถานการณ์ การส่งออกข้าวไทยในช่วง 8 เดือนแรกของ ปี 2558 มีการส่งออกข้าวไทยไปฮ่องกงเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ฮ่องกงนำเข้า รวม 184.5 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่ผ่านมาจำนวน 199 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงร้อยละ 7.3 แต่ฮ่องกงนำเข้าจากไทย เพิ่มขึ้นจาก 102 ล้านดอลลาร์ เป็น 118.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 ทำให้ไทยมีสัดส่วนการส่งออกที่ร้อยละ 64.4 ขณะที่เวียดนามส่งออกได้ 39.5 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนร้อยละ 21.4 ลดลงจากร้อยละ 28.5 ของปีที่ผ่านมา
ในปีที่ผ่านมา ฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยปริมาณ 182,071 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่มี การนำเข้าปริมาณ 160,095 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยร้อยละ 77 ข้าวหอมปทุมธานีร้อยละ 12 ข้าวขาวร้อยละ 5 ข้าวเหนียวร้อยละ 4
ด้าน นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนกันยายน 2558 ว่า ส่งออกของไทยเดือนกันยายนมีมูลค่า 18,815.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบร้อยละ 5.51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 9 เพราะการส่งออกยังลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้การนำเข้าของเกือบทุกประเทศทั่วโลกยังคงหดตัว โดยเฉพาะคู่ค้าสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม) หากไทยส่งออกได้ เดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้การส่งออกรวมทั้งปีติดลบประมาณร้อยละ 3.5-4 จากที่คาดไว้ว่าจะติดลบร้อยละ 3
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเหลือร้อยละ 3.1 จากเดิมร้อยละ 3.3 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวทำให้คาดว่าทั้งปีน่าจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนการค้าโลกทั้งปีขยายตัวติดลบร้อยละ 11.1
ส่วนเรื่องปัญหาภัยแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ช่วยกันประหยัดน้ำ ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค
ด้าน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เน้นย้ำหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เตรียมแผนรับมือภัยแล้ง เนื่องจากคาดการณ์ว่า ในปี 2559 ประเทศไทยจะประสบปัญหาภัยแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา และเกรงว่าจะส่งผลกระทบ ต่อการบริหารจัดการน้ำในการบริโภค อุปโภค และการเกษตร จึงให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย และเหล่าทัพ เตรียมพร้อมรับมือ ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาภัยหนาวในปลายปีนี้ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
ส่วนเรื่องที่ดาราคนดังโพสต์ภาพถ่ายคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวม 15 คน ซึ่งแยกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่มีรายชื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกับบริษัทเบียร์ กับอีกกลุ่มที่โพสต์ภาพเพียงอย่างเดียว นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ทั้งหมดจะทยอยเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานเจ้าหน้าที่ครบภายในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อนำส่งอัยการและส่งฟ้องศาลต่อไป โดยความผิดจะดูเป็นรายบุคคล เพราะผิดกันต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ยังมีอีก 18 คนที่โฆษณาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในวันนี้สำนักงานจะทำหนังสือและให้ตอบกลับในวันที่ 5 พฤศจิกายนเพื่อเชิญมาให้ข้อมูล
ด้านกรมควบคุมโรค เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับล่าสุด เรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา 5 วัน ได้แก่ มาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา สำหรับวันออกพรรษาที่ตรงกับวันนี้ จะเป็นปีแรกที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับวันออกพรรษา
*-*