เมืองไทยฯ(1):ครม.หารือมาตรการช่วยชาวนาและชาวสวนยาง/กรธ.สรุประบบเลือกตั้ง/แก้กฎหมายสสส.*

ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะพิจารณามาตรการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ฤดูการผลิต 2558/2559 และการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว รวมทั้งชดเชยให้ชาวสวนยาง วงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท

ส่วน พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเสนอครม.แต่งตั้งนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ เป็นอธิบดีกรมชลประทาน

นอกจากนี้ จะเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง เฉพาะค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต และแรงงานกรีดยาง โดยกลุ่มชาวสวนยางที่จะได้รับช่วยเหลือ จะเป็นกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในปี 2558 จำนวน 8 แสน 5 หมื่นคน ส่วนมาตรการเพิ่มปริมาณการใช้ยางเป็นวัตถุดิบในประเทศ จะเสนอต่อ ครม. ในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายนนี้

ในช่วงบ่ายนายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ นายวิษณุ กล่าวถึงการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ว่านายกรัฐมนตรีต้องการพูดคุยแนวทางปฏิรูปกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพราะยังไม่เคยพูดคุยกัน นอกจากนี้จะมีการเชิญปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าเข้าร่วมประชุม เพื่อให้รับฟังแนวทางปฏิรูปประเทศ และเปิดโอกาสให้มีการสอบถาม

ด้านการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เรื่องระบบการเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อสรุปเรื่องระบบการเลือกตั้งที่กำหนดให้นำคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง ไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยประชาชนจะลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งเพียงหนึ่งใบ  นอกจากนี้ บุคคลที่จะได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.จะต้องมีคะแนนมากกว่าคะแนนของผู้ที่มาใช้สิทธิไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ "โหวตโน" โดยที่บุคคลนั้นจะไม่มีสิทธิกลับมาลงสมัคร อีก เนื่องจากการแพ้คะแนนโหวตโน ย่อมหมายความว่าประชาชนได้ปฏิเสธบุคคลนั้นแล้ว

ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีแนวคิดในเบื้องต้นว่าภายหลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว กกต.ยังมีอำนาจสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ แต่หากเป็นกรณีของการให้ "ใบแดง" เพื่อตัดสิทธิทางการเมืองฐานทุจริตการเลือกตั้งจะต้องเป็นหน้าที่ของศาล โดยให้ศาลพิจารณาคดีโดยยึดสำนวนของกกต.เป็นหลัก

ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ประชุมร่วมกับ ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ รักษาการผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่า พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพฯ ใช้คำที่ครอบคลุมกว้างจนเกินไป จึงเห็นว่าต้องมีการแก้ไข เพื่อให้การใช้งบประมาณแผ่นดินต่อจากนี้ไปไม่เป็นที่แคลงใจของสังคม โดยแจ้งกับ สสส. ว่าหากไม่มีการทุจริต และ สสส.ต้องการ ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่จำเป็นต้องกลัวการเปลี่ยนแปลงในแง่กฎหมาย และสสส.ต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง โดยในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเรียกประชุมการแก้ไขกฎหมายต่อไป

มาที่การดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องสงสัยในคดีแอบอ้างสถาบันเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ฆ่าตัวตายในห้องคุมขัง จนมีผู้เรียกร้องให้ยกเลิกการใช้เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) เป็นเรือนจำชั่วคราว โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือนจำแห่งนี้ และหากเป็นสถานการณ์ปกติก็จะไม่มีเรือนจำแห่งนี้

ด้านนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าญาติของผู้เสียชีวิตมาติดต่อขอรับศพจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปแล้ว และทางกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตตามที่คณะกรรมการชันสูตรพลิกศพระบุการเสียชีวิต ญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

โดยในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มผู้แอบอ้างสถาบันเรียกรับผลประโยชน์ ตามมาตรา 112 โดยในเบื้องต้นพบว่า มีลักษณะคล้ายกับเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์

ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะมีพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนพระรากขวัญหรือกระดูกไหปลาร้า จากวัดมหิยานกะนะราชามหาวิหาร สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามาประดิษฐาน ที่หอประชุมพุทธมณฑล 16 วัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาและในโอกาสฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี ไทย-ศรีลังกา

โดยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจะมีขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.00 น. จากสนามบินสุวรรณภูมิ และอัญเชิญมาประดิษฐานที่หอประชุมพุทธมณฑล ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ

 *-*