พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัย เนื่องในวันสหประชาชาติ ประจำปี 2558 ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2558 ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีนี้ นับเป็นปีที่พิเศษเนื่องจากเป็นปีที่สหประชาชาติก่อตั้งครบ 70 ปี ตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้พิสูจน์แล้วว่า มีบทบาทสำคัญในการพยายามระงับการพิพาทระหว่างประเทศที่ใช้กำลัง การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจและสังคมของหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะที่ประสบความเสียหายจากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ตลอดจน นำความกินดีอยู่ดีมาสู่รัฐสมาชิก
นายกรัฐมนตรีมีความภาคภูมิใจที่ประเทศไทยมีบทบาทเข้มแข็งในฐานะสมาชิกสหประชาชาติมาเกือบ 7 ทศวรรษ บทบาทของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากองค์กรและประเทศสมาชิก ด้วยการมีส่วนร่วมในการให้ความเห็น และแบ่งปันประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศ เพื่อนำไปสู่การออกข้อมติต่าง ๆ ของสหประชาชาติที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญที่อยู่ภายใต้องค์กรสหประชาชาติ เช่น คณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก หรือ ESCAP
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม สมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “70 ปีสหประชาชาติ เส้นทางสู่สันติภาพ ความมั่นคง และสิทธิมนุษยชน” โดยในถ้อยแถลง นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบทบาทและการทำงานของไทยที่ผ่านมาในเวทีสหประชาชาติ วิสัยทัศน์ของไทยต่อการแก้ไขปัญหาที่ท้าทายโลก พร้อมย้ำถึงความตั้งใจที่จะปฏิรูปประเทศไทยอย่างครอบคลุมรอบด้าน เพื่อนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รวมทั้งยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมทำงานในฐานะเป็นหุ้นส่วนกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน
สำหรับการที่ประเทศไทยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. 2017-2018 ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าศักยภาพและบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยจะสามารถช่วยส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องในวันสหประชาชาติ ในนามของรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรีขอส่งความปรารถนาดี ไปยัง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาติ ทั้งที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มแข็งทั่วโลก และย้ำว่าประเทศไทยจะยึดมั่นในหลักการ และความรับผิดชอบขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งจะให้ความร่วมมือกับประชาคมโลกในทุกมิติ ทั้งในอาเซียน และในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบสุข ความมั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีของ มวลมนุษยชาติอย่างเต็มความสามารถ
อ่านฉบับเต็ม :
http://www.thaigov.go.th/index.php/th/government-th1/item/96673-96673.html